Step Up All In ยังคงมาพร้อมลีลาแดนซ์เร้าใจ มีสีสันและอุปกรณ์มาเพิ่มความตื่นตา เรียกว่าถ้าโปรดปรานฉากเต้นเจ๋งๆ ล่ะก็เรื่องนี้ยังไว้ใจได้ครับ

เนื้อหา ก็สไตล์เดิม นั่นคือเหล่านักเต้น (นำโดย พระเอกหล่อ+นางเอกสวย… อย่างเฮียมูสนี่ไม่ได้เล่นนำกับเขาสักที 555) พากันมาเดินตามความฝัน ฝ่าฟันอุปสรรคไปสู่การยอมรับบนเวทีประลอง ซึ่งถ้าใครยังไม่เบื่อกับพล็อตนี้และชอบการเต้นเป็นชีวิตจิตใจก็น่าจะยังพอ ใจกับภาคนี้ครับ

ส่วนผมยอมรับว่าสนุกกับลีลาแดนซ์มันส์ๆ ที่ทีมงานพยายามใส่ของจัดเต็ม (โดยเฉพาะตอนไคลแม็กซ์) และชอบบางประเด็นที่หนังเล่า เช่น ช่วงต้นๆ ที่หนังแสดงให้เห็นว่า แม้พวกพระเอกนางเอกจะมีชัยชนะและประสบความสำเร็จในภาคก่อนๆ มาแล้ว แต่นั่นหาใช่จุดสิ้นสุด ไม่ใช่ว่าชนะการเต้นหนึ่งครั้งแล้วชีวิตจะ Happy Ending หรือจะได้ครองความสำเร็จนั้นตลอดไป จนทำให้พระเอกต้องหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาความสำเร็จและความฝันของเขา ต่อไป

ซึ่งการเปิดประเด็นนี้ถือว่าน่าสนใจครับ เพราะมันก็เหมือนสะท้อนความจริงของโลกที่ไม่เหมือนในหนัง อันที่จริงต้องบอกว่าหนังแต่ละเรื่องมันเป็นเพียง “เรื่องราว ณ ขณะหนึ่ง” เปรียบได้กับซีรี่ส์ที่มีตอนต่อไปมาจ่อรอเสมอ

ไม่ใช่ว่าพอตอนจบเราประสบความสำเร็จแล้ว เราสอบได้แล้ว เขารับรักเราแล้ว แล้วทุกอย่างจะจบ มันไม่ใช่ครับ มันเป็นเพียง “การจบตอน” แล้วก็จะมี “ตอนต่อไป” ตามมา

อีกประเด็นที่ชอบคือ เมื่อเราเดินตามความฝัน เมื่อเรา “ทำงานในสิ่งที่เราชอบ” (เช่นรักการเต้นเลยทำงานเป็นนักเต้น) เราต้องเผื่อใจครับว่าบางขณะมันอาจไม่สนุก มันอาจไม่ได้มีอิสระ มันอาจมีกรอบมาตี อาจมี “ใบสั่งงาน” มาสร้างความหนักใจให้เรา

หรือถ้าเราต้องเอาสิ่งที่เราชอบมาทำมาหากิน เมื่อเงินมาเกี่ยว การตัดสินใจ มุมมอง หรือความรู้สึกของเราอาจเปลี่ยนไป

เราทำเพราะสนุก กับ เราทำเพราะจะได้มีข้าวกิน… ความรู้สึกไม่เหมือนกัน

+++++++ Spoil ++++++++++++++

ใน การสรุปเรื่องนั้น คิดอยู่แล้วว่าจะต้องสรุปในเชิงว่า “เราต้องกลับมารักในสิ่งทีเราทำ อย่าให้เงิน ตำแหน่ง หรือชื่อเสียงมากดดันจนเราเป๋ไป จงรีสตาร์ทตัวเองใหม่ ให้ทำงานที่รักด้วยใจรัก แล้วความสำเร็จจะมาเอง” ซึ่งในหนังบทสรุปย่อมกำหนดให้เป็นแบบนั้นได้

แต่สำหรับชีวิตจริงแล้ว คงมีบางคนครับที่เหนื่อย อ่อนล้า โดนเจ้านาย ระบบ หรือสังคมกดดันจนไม่เหลือแรง… จนบทสรุปอาจไม่ง่ายอย่างในหนัง

สำหรับทุกท่านที่ต้องประสบพบเจอเรื่องแบบนั้น ก็อย่าลืมพักสักนิดนะครับ เหนื่อยก็พัก ไม่ไหวก็ผ่อน

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

+++++++++++++++++++++++++++++

สำหรับผมแล้วก็รู้สึกชอบภาคก่อนๆ มากกว่าครับ ไม่รู้ว่าเพราะเฉยๆ กับหนังแนวนี้แล้ว หรือเพราะการเล่ายังไม่มีพลังเท่าคราวก่อนๆ

เอาเป็นว่าถ้าชอบและสนุกกับหนังแนวนี้ก็น่าจะโอเคครับ
คะแนนความชอบ 6/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน