รีวิว Cross Wars (2017) ครอส พลังกางเขนโค่นเดนนรก 2

รีวิว Cross Wars (2017) ครอส พลังกางเขนโค่นเดนนรก 2

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

บอกตรงๆ เลยคือผมไม่นึกว่ามันจะมีภาคต่ออกมาอีกนะเนี่ย… ถึงจุดนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงงงว่านี่มันมีภาคแรกออกมาก่อนด้วยหรือ คำตอบก็คือ มีครับ

ภาคแรกคือ Cross หนังปี 2011 ที่กำกับโดย Patrick Durham คนที่ตามมากำกับภาค 2 นี่แหละครับ เรื่องราวในภาคแรกก็ทำออกมาอารมณ์ซูเปอร์ฮีโร่ ว่าด้วยเรื่องของโลกที่มีปีศาจร้ายคอยคุกคามความสงบ เบื้องบนเลยสร้างให้มีวัตถุวิเศษไว้ใช้ต่อกรกับความชั่ว

และหนึ่งในนั้นคือกางเขนศักดิ์สิทธิ์ครับ ซึ่งตัวเอกอย่างคัลแลน (Brian Austin Green) ก็ต้องออกโรงปกป้องและใช้พลังของกางเขนในการปราบปีศาจและขจัดภัยพาลให้สิ้นไป

จริงๆ หน้าหนังเหมือนจะเป็นแนวซูเปอร์ฮีโร่ แต่แนวทางกลับชวนให้นึกถึง “คมแฝก” และเอาเข้าจริงๆ ผมว่าคมแฝกบ้านเรายังดูเพลินกว่าอีกครับ (555) คือมันยังมีพล็อตมีอะไรให้ติดตาม แต่กับเรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยจริงๆ


ในเรื่องก็ให้เหล่าตัวเอกมีของวิเศษครอบครองแล้วก็สู้รบปรบมือกับคนชั่ว แต่เราไม่ค่อยได้เห็นพวกเขาได้บู๊ในเชิงอภินิหารสักเท่าไร เหมือนตำรวจไล่ปราบคนร้ายไปเรื่อยๆ มากกว่า หรือกระทั่งตัวร้ายเองก็ไม่ได้มีพลังมากมายอะไร เหมือนอยู่ในระดับอันธพาลทั่วๆ ไปมากกว่า

ครับ ภาคแรกออกมาประมาณไหน ภาคนี้ก็ออกมาประมาณนั้น มันไม่ได้สนุกไปกว่ากันหรอก แต่ในภาคแรกจะมีดารามีชื่อมาร่วมจอหลายคน ไม่ว่าจะ Michael Clarke Duncan, Vinnie Jones, Danny Trejo, Robert Carradine, Jake Busey แต่รายที่ผมจำได้แม่นสุดต้องยกให้ Susie Abromeit สาวสวยอีกคนที่ยังไม่ได้แจ้งเกิดแบบเต็มๆ สักที

ส่วนภาคนี้ดาราก็ลดขนาดลงครับ เหลือที่พอมีชื่อแค่ Trejo, Jones และ Sizemore โดย Trejo มีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม จนตอนแรกผมนึกว่าจะมาเป็นบิ๊กบอส ซึ่งจริงๆ พี่เขาก็เป็นบิ๊กบอสจริงๆ นั่นแหละครับ เพียงแต่ในเรื่องแค่โผล่มารวบรวมของวิเศษ แต่ยังไม่มีการสู้กับพระเอกแบบเป็นทางการ

ดูๆ ไปนี่ผมรู้สึกเหมือนพี่ Trejo แกเป็นธาโนสน่ะครับ อยู่เบื้องหลังเรื่องต่างๆ แล้วก็รวบรวมของวิเศษเพื่อเอาไว้ใช้พิชิตชัย คือมันใช่เลยนะ ยิ่งหนังพยายามทำให้ตัวเองเป็นแนวซูเปอร์ฮ่โร่คอมมิคอีก คือมันเป็นการเดินตามรอยแบบชัดเจนมาก


แต่อย่าถามถึงผลลัพธ์ครับ มันไม่ได้สนุกอะไรสักเท่าไร จริงๆ หนังก็พยายามทำอะไรในสไตล์ของตัวเองออกมานะ อย่างการเดินเรื่องที่มันดูทีเล่นทีจริง มันไม่ได้ดูจริงจังอะไรมาก เลยทำให้มันไม่มีความตื่นเต้น แต่สำหรับบางคนหากชอบสไตล์นี้ก็อาจมองว่ามันแนวดีก็ได้

แล้วตอนจบยังไม่วายลงท้ายว่า Cross Will Return นั่นประกาศชัดเลยครับว่าพี่แกจะกลับมาอีกแน่ๆ ซึ่งถ้ามาจริงๆ ผมก็พร้อมดูนั่นแหละครับ ไหนๆ ดูมา 2 ภาคแล้ว ตามดูต่ออีกสักภาคจะเป็นไร เผื่อมันจะสนุกขึ้นมาแบบพลิกความคาดหมาย

หากอยากลองลิ้มผมก็ไม่ห้ามครับ แต่ใจจริงก็อยากบอกว่าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นก็ได้นะครับ ไปดูหนัง Marvel, DC หรือหนังบู๊เรื่องอื่นๆ ที่เคยดูแล้ว เอามาดูซ้ำอีกก็ได้ แบบนั้นเวลาที่ใช้ไปน่าจะคุ้มค่ากว่านะครับ แต่ก็อีกนั่นแหละ ถามว่ามีคนชอบหนังแบบนี้ไหม คำตอบคือ “มี” ครับ

ได้ยินมาเหมือนกันว่าหนังก็อาจจะเป็น Cult อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับ หนังเรื่องหนึ่งก็ต้องมีคนที่ชอบบ้างเป็นของธรรมดา แม้คนไม่ชอบจะเยอะแค่ไหนก็เถอะ แต่มันอาจถูกเส้นคนบางกลุ่มเข้าก็ได้

แค่ว่าผมไม่ได้อยู่ในคนกลุ่มนั้นเท่านั้นเอง
คะแนนความชอบ 4/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Masterminds (2016) ปล้น วาย ป่วง

2200 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังประกาศตัวว่าอิงจากเรื่องจริงในปี 1997 ที่ว่าด้วยการปล้นแบงค์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา แต่ผมว่าเรื่องจริงมันก็คงไม่ขำและบ้าบอเท่าเรื่องที่เอามาเล่าในหนังแน่ๆ ล่ะครับ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว The Belko Experiment (2016) เกมออฟฟิศ ปิดตึกฆ่า

2805 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ระหว่างดูหนังเรื่องนี้นี่ผมนึกถึง Battle Royale ตลอดเลยครับ เพราะพล็อตมันมาแนวเดียวกันเลย ประเภทให้คนไปอยู่รวมในที่เดียวแล้วก็ไล่ฆ่ากันให้ตายให้หมด ทุกคนก็ต้องหาทางเอาชีวิตรอดกันแบบจ้าละหวั่น ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Resident Evil: Vendetta (2017) ผีชีวะ สงครามแค้นแพร่พันธุ์ไวรัส

2354 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ยอมรับว่าระยะหลังมาเนี่ย หากให้เทียบระหว่าง Resident Evil เวอร์ชั่นหนังกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นว่าชอบฉบับไหนมากกว่ากันแล้ว ดูเหมือนว่าคำตอบของผมจะเป็นว่า ผมจะสนุกเพลินกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมากกว่าทุกทีครับ เอาเข้าจริงเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ครับ หลักๆ ก็เป็นการไล่ตามล่าตามล้างความชั่วที่พวกอัมเบรลร่าทำ ในขณะที่เวอร์ชั่นหนังถ้าดูจากเนื้อหาแล้ว ดูจะมีความพยายามใส่อะไรหลายๆ อย่างที่มันสดใหม่กว่า แต่พอมาดูเนื้อในเข้าจริงๆ แล้ว ฉบับหนังที่ดูเหมือนจะใหญ่ กลับขาดความเข้มข้นทั้งที่พยายามใส่เรื่องราวลงไปตั้งเยอะ ไปๆ มาๆ เหมือนจะเป็นการพยายามโชว์ CG เสียมากกว่าจะใส่ใจที่เรื่องราวจริงๆ (และบางภาคเปิดปมมาดีมาก แต่พอเล่าไปชักออกทะเลแฮะ) ส่วนเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นแม้จะเป็นอะไรที่มันเดิมๆ และเดาได้ แต่การนำเสนอออกแนว “น้อยแต่แน่น” มีการโฟกัสทิศทางเรื่องที่ชัดเจน โดยรวมๆ แล้วผลที่ได้ก็คือ “ไม่ต้องพยายามเล่นใหญ่ก็ได้ แต่ออกมาสนุกแบบพอดีคำ” หรืออาจจะเพราะฉบับแอนิเมชั่นไม่ทำให้เราคาดหวังก่อนดูก็ได้ครับ พอดูแล้วเลยไม่ผิดหวัง