รีวิว Moonlight (2016) มูนไลท์ ใต้แสงจันทร์ ทุกคนฝันถึงความรัก (ตอนจบ)

รีวิว Moonlight (2016) มูนไลท์ ใต้แสงจันทร์ ทุกคนฝันถึงความรัก (ตอนจบ)

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

บางทีการที่ปัญหาในสังคมของเรามันซ้ำซ้อนซ้ำซากและยากจะหยุดยั้ง มันอาจเพราะเรามัวแต่แก้ปัญหาโดยการจับคนผิด ทว่ากลับไม่คิดหยุด “รังเอเลี่ยนที่ผลิตคนทำผิด” ดังนั้นต่อให้เราจับคนผิดได้หมด ก็จะมีคนทำผิดรุ่นใหม่ถือกำเนิดมาให้เราวิ่งไล่จับได้อยู่ดี… มันจะไม่มีวันจบ…

การดู Moonlight เหมือนการดู Boyhood เวอร์ชั่นดาร์ก เราจะได้เห็นเรื่องราวของ ไชรอน ตั้งแต่วัยเด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งชีวิตของเขานั้นก็เต็มไปด้วย “สิ่งเร้าที่ทำให้ชีวิตสับสน” ไม่ว่าจะสังคมรอบตัวที่มีอันธพาล มีคนขายยา มีคนติดเหล้า หรือกระทั่งแม่ของเขาก็ยังชอบที่จะเมาหรือไม่ก็หาผู้ชายคนใหม่ มากกว่าจะมาใส่ใจเด็กเช่นเขา

เขาโตมาโดยไร้คนสอนสั่ง อาจถือเป็นโชคดีที่เขาได้เจอกับฮวน (Mahershala Ali) ที่พยายามสอนวิธีการใช้ชีวิตให้กับเขา แต่เอาเข้าจริงฮวนเองก็ไม่ใช่คนดีเต็มร้อย และหากจะมองไปแล้วนั้น สิ่งที่ฮวนทำก็อาจมีส่วนต่อความเหลวแหลกที่เกิดขึ้นกับไชรอนด้วย… มันคือความย้อนแย้งที่เจ็บแสบพอดู

ไชรอนยังคงเติบโตขึ้นท่ามกลางความสับสน เหมือนเขาต้องใช้ชีวิตแต่ละวันให้ผ่านไปโดยไร้จุดหมาย เขาไม่รู้จักคุณค่าของตน ไม่รู้ว่าตนมีที่ยืนที่ตรงไหน ไม่รู้ด้วยว่าเขาควรจะก้าวเดินอย่างไรต่อไป… แม้หนังจะโฟกัสที่ไชรอน แต่ผมก็คิดว่าหลายๆ ตัวละครในเรื่องก็คงไม่ต่างจากเขา… ดีไม่ดีเราก็อาจเคยเป็นเหมือนไชรอนกันมาแล้วก็ได้

ที่ผมสาธยายไปยืดยาวข้างต้น คือสิ่งที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ครับ ตลอดเรื่องเราจะได้ตามติดชีวิตชองไชรอน ได้เห็นว่าสภาพแวดล้อมของเขามันเป็นเช่นไร แม้หนังจะไม่ได้นำเสนอแบบ Real แบบเต็มๆ แต่ก็ถือว่าจับประเด็นและแง่มุมมาบอกเล่าได้น่าสนใจไม่น้อย

ก็สังคมมันเป็นแบบนี้น่ะครับ ไชรอนอยู่ในสังคมระดับล่าง แม่ก็แบบนั้น คนรอบตัวก็แบบนั้น เพื่อนที่โรงเรียนก็แบบนั้น ผู้ใหญ่ทั้งหลายก็แบบนั้น ทั้งหมดทั้งปวงคือสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อชีวิตและตัวตนของไชรอน มันคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติในสังคมที่เขาโตมา… มันไม่แปลกเลยที่เขาจะโตมาแบบที่เราเห็นในหนัง

ว่าตามจริงผมชอบประเด็นในหนังนะ มันสื่อถึงสังคมที่เหลวแหลก และผลิตผลที่เกิดตามมาจากสังคมที่เหลวแหลกนั้น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครใส่ใจแก้ไขมัน แค่ปล่อยให้สังคมเป็นไป ใครทำอะไรก็ทำไป… ในบางแง่มุมมองคิดนะว่าทำไมคนในสังคมไม่มีใครคิดจะตีปัญหาให้แตกแล้วพยายามทำอะไรกันเสียบ้าง

แต่พอคิดๆ ไปแล้ว ผมว่าจริงๆ พวกเขาไม่ได้สนใจที่จะแก้อะไรเลยด้วยซ้ำ พวกเขาอาจมองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ (ไม่ใช่พยายามไม่มองนะครับ แต่ไม่เห็นเลยน่ะ ไม่เห็นโดยสิ้นเชิง) แต่ทุกคนสนใจแค่การทำมาหากินหรือการเอาตัวรอดให้ชีวิตผ่านไปได้เป็นวันๆ เท่านั้นเอง

การดูหนังเรื่องนี้ไม่ทำให้เกิดความสุขครับ เพราะเราต้องมาใช้เวลา 2 ชั่วโมงนั่งดู “ความจริงของสังคม” โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ เพราะหากอยากเปลี่ยนสังคมจริงๆ มันต้องใช้แรงกาย แรงใจ และแรงคนมหาศาล จริงครับที่หากคนหนึ่งคนคิดเปลี่ยนโลกแล้วมันอาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ตราบใดที่คนหมู่มากยังไม่คิดเปลี่ยน มันก็เหมือนเอาไข้ไปปะทะหิน ไข่ทั้งหลาย (หรือคนที่มีเจตนาดี) ก็จะร้าวและแตกไป ลูกแล้วลูกเล่า…

เรากำหนดชีวิตตนเองได้ไหม? ผมว่าได้ในระดับหนึ่งครับ แต่ไม่ว่าจะยังไงสรรพสิ่งรอบตัวเราก็จะมีผลต่อชีวิตเราเสมอ เรียกว่าเราคงทำได้แค่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดใน “หุ้นชีวิตของเรา” แต่คงยากจะไปกะเกณฑ์สิ่งแวดล้อมเราให้เป็นไปตามใจเราต้องการได้ เพราะเอาแค่เปลี่ยนใจคนใกล้ๆ ตัวยังถือว่ายากเลย

สำหรับหนังเรื่องนี้ ก็ถือว่ามาพร้อมประเด็นที่ดีครับ แต่หากว่ากันถึงการเล่าเรื่องแล้ว ก็อาจไม่ถึงกับน่าติดตามหรือเปี่ยมพลังแบบเต็มๆ รวมถึงความลึกของตัวละครที่อาจยังไม่ถึงกับลึกแบบจัดๆ แต่ก็พอเข้าใจครับ เพราะหนังดูจะเน้นนำเสนอ “องค์รวมของภาพสังคม” มากกว่าจะเน้นดราม่าของตัวละคร จนพอจะบอกได้ว่านี่ไม่เชิงเป็นหนังชีวิต แต่ออกแนวหนังสะท้อน (สะเทือน) สังคมครับ

นี่อาจไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะชอบนะครับ แต่ก็อยากให้ลองดูกันเพื่อเก็บเกี่ยวสารสาระในหนัง ที่หลายแง่มุมมันก็สะท้อนมาถึงปัญหาที่บ้านเรากำลังประสบอยู่

ปล. ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ผมอยากดูรักแห่งสยามขึ้นมาอีกรอบครับ ครั้นดูเรื่องนั้นแล้ว ผมกลับค่อนข้างชอบเรื่องรักแห่งสยามของบ้านเรามากกว่าแฮะ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Curve (2015)

2844 1

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าหนังเรื่อง Curve ดูน่าสนใจไม่ไก่กา เพราะหนังนำแสดงโดยสาวสวยนักเต้นเท้าไฟ  (Footloose และ Safe Haven) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด นอกจากนี้หนังยังกำกับโดย Iain Softley ที่ทำหนังได้เข้าท่าไม่ว่าจะดรา ม่า, สยอง หรือแฟนตาซี (ผลงานที่ผ่านมาก็เช่น The Wings of the Dove, K-PAX, The Skeleton Key และ Inkheart) ดังนั้นก็แอบคิดครับว่าหนังมันน่าจะโอเคอยู่ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Laggies (2014) รักเราอย่าเต่าเลย

2470 0

ผมมีความสุขกับการดู Laggies มากกว่าที่คิดครับ สารภาพว่าตอนแรกไม่ได้สนใจมากมาย ครั้นพอดูแล้วก็รู้สึกเพลินกับหนังมากพอสมควรเลยล่ะ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว The Hunger Games: Mockingjay – Part 2 (2015) เกมล่าเกม ม็อกกิงเจย์ พาร์ท 2

2947 0

และแล้วเรื่องของ The Hunger Games ก็มาถึงบทสรุปครับ เมื่อแคทนิส (Jennifer Lawrence) และพรรคพวกต้องประจัญบานกับประธานาธิบดีสโนว์ (Donald Sutherland) ในขั้นเด็ดขาด ก็มีการต่อสู้ มีการล้มเจ็บล้มตายกันตามสูตร ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด