นี่คืออีกหนึ่งหนังรีเมคครับ ซึ่งงานดั้งเดิมนั้นก็เป็นหนังในความทรงจำของผมอีกเรื่องเช่นกัน ที่บอกว่า “ในความทรงจำ” นี่ไม่ได้แปลว่ามันดีมากหรือประทับใจมากอะไรหรอกครับ เพียงแต่มันคือหนังที่ผมจำได้เนื่องจากมีเรื่องให้จำเกี่ยวกับมัน
The Watcher in the Woods คือนิยายของ Florence Engel Randall ที่ Walt Disney เคยเอาไปดัดแปลงเป็นหนังใหญ่ฉายช่วงปี 1980 นำแสดงโดย Bette Davis ดาราหญิงอมตะอีกคนของวงการ ร่วมด้วย Lynn-Holly Johnson ที่เคยเล่นเจมส์ บอนด์ตอน For Your Eyes onlyที่ทำให้ผมจำได้ก็เพราะ แม้หนังจะพะยี่ห้อ Disney แต่มันกลับไม่ใช่หนังใสๆ เบาๆ ตามสไตล์ที่ Disney ชอบทำครับ แต่หนังออกแนวหม่นมืด Dark มีความน่ากลัวเจืออยู่ และมันน่ากลัวพอที่จะทำให้เด็กที่ดูรู้สึกอึดอัดได้

ที่ผมจำได้เพราะยุคนั้น Disney เกิดอยากลองของใหม่ครับ หลังจากทำแนวเทพนิยายและหนังครอบครัวมาสารพัด พวกเขาก็ลองจับแนวน่ากลัวๆ บ้าง ไม่ว่าจะเรื่องนี้ เรื่อง The Black Hole หรือ Return of Oz (ที่ซีน “เต็มไปด้วยหัว” ยังคงหลอนได้อีกเสมอ)

แม้ผลที่ได้มันอาจไม่ได้น่ากลัวแบบหนังสยองขวัญเต็มตัว แต่ลองคิดดูครับว่าเด็กหลายคนไม่รู้เลยว่ามันจะน่ากลัว รู้แต่เป็นหนังของ Disney เลยดูด้วยความเบาใจ แล้วก็โดนซะ ซึ่งยุคสมัยแห่ง Dark Disney ก็เกิดเพียงระยะหนึ่งครับ พอไปไม่รอดก็เลยเลิกกันไปและ The Watcher in the Woods ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ผมอาจไม่ทันดูตอนมันฉาย แต่ได้ดูวีดีโอครับ เอามาเปิดตอนกลางเด็กกลางวัยรุ่น ผมยังว่ามันดูลึกลับผิดรส Disney เลย ในขณะที่ตัวหนังก็ถือว่ากลางๆ ไม่ได้เด็ดอะไรมากมาย

ส่วนฉบับรีเมคนี่เห็นเขาบอกว่าจะทำให้น่ากลัวมากขึ้น พอดูแล้วก็พบว่าจริงล่ะครับ คนทำพยายามปรุงให้มันดูหม่นและน่ากลัว แต่ปัญหาสำคัญก็คือ มันมีความแตกต่างกันอยู่นะ ระหว่าง “น่ากลัว” กับ “พยายามจะน่ากลัว”

คือทิศทางมันดูจะเป็นแนวลึกลับน่ากลัวครับ แต่ผลออกมามันไม่ใช่เลย การเดินเรื่องไม่ชวนติดตาม มุมกล้องธรรมดา ดาราส่วนใหญ่ก็ธรรมดา คือถ้าให้พูดแบบแรงๆ เลยก็คือคนกำกับกุมบังเหียนหนังเรื่องนี้ดูจะไม่แม่นสักเท่าไรเลย

และคนกำกับก็คือ Melissa Joan Hart อดีตดาราวัยรุ่นที่ฮ็อตมากทางทีวีเมื่อยุค 90 ไม่ว่าจะ Sabrina, the Teenage Witch หรือ Clarissa Explains It All แต่เธอก็ค่อยๆ ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาครับ ซึ่งจริงๆ เธอก็เคยชิมลางกำกับมาบ้าง แต่กับเรื่องนี้นี่ต้องบอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ครับการเล่าเรื่องก็เล่าไปเรื่อยๆ จริงๆ มันมีช่วงเล่าตำนานหรือเปิดปมตามสไตล์หนังลึกลับ แต่การเล่าในฉากเหล่านั้นมันนิ่งมาก นิ่งจนสารคดีแนวลึกลับยังเล่าได้เร้าใจกว่า (ยิ่งสมัยนี้มี Stranger Things ก็ยิ่งไปกันใหญ่ล่ะครับ จังหวะการเล่ามันคนละเรื่องกันจริงๆ)

สิ่งที่รู้สึกเสียดายที่สุดสำหรับผม คือ Anjelica Huston ดาราลายครามที่หลายคนคงจำได้จากบทมอร์ติเชีย ใน The Addams Family จริงๆ เธอเป็นดารายอดฝีมืออีกคนครับ แต่หนังใช้ความสามารถของเธอไม่คุ้ม ส่วนหนึ่งก็คงเพราะต้องอุ้มดารารุ่นใหม่ด้วย อุ้มหนังด้วย ซึ่งก็เข้าใจล่ะครับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ก็เลยออกจะเห็นใจที่ต้องมาเห็นเธอร่วมเล่นหนังเรื่องนี้

โดยรวมก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ครับ ยอมรับว่าลึกๆ ก็คิดอยู่แล้วล่ะว่ามันอาจจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่พอมันเป็นแบบนี้จริงๆ ก็รู้สึกเสียดาย เพราะหนังแนวนี้ถ้าเล่าดีๆ มันก็เหมือน Stranger Things น่ะครับ มันผูกเรื่องให้ลุ้นให้ติดตามได้อีกเยอะ ถ้าผูกดีๆ ล่ะก็

คะแนนความชอบ 5/10

รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน