รีวิว Christmas Eve (2015) (ตอนที่ 1)

รีวิว Christmas Eve (2015) (ตอนที่ 1)

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

เมื่อพูดถึงหนังวันคริสต์มาสแล้ว ก็มีทั้งที่ผมชอบมากๆ หรือไม่ก็เฉยๆ และก็มีอีกไม่น้อยเหมือนกันที่เกือบจะชอบอยู่แล้วเชียว ถ้าได้นั่นอีกนิดนี่อีกหน่อยก็คงดี หนังก็คงกลมกล่อมอร่อยลิ้นมากขึ้นเยอะ ซึ่ง Christmas Eve เรื่องนี้ก็เป็นหนังที่อยู่ในข่ายนั้นครับ

มาเริ่มจากดารากันก่อนครับ สำหรับผมนี่คือการรวมดาราที่มีระดับพอสมควร เริ่มจาก Patrick Stewart (กัปตันพิคาร์ดแห่ง Star Trek: The Next Generation และโปรเฟสเซอร์เอ็กซ์จาก X-Men), Gary Cole (ดารารุ่นเก่าที่เชื่อว่าคอหนังยุค 90 พอเห็นต้องร้องอ๋อแน่นอน)

ตามด้วย Jon Heder (Blades of Glory), Cheryl Hines (The Ugly Truth, Herbie Fully Loaded) และ Julianna Guill (Friday the 13th เวอร์ชั่นล่าสุด) และหนังอำนวยการสร้างโดย Larry King พิธีกรชื่อดังของอเมริกัน

เรื่องเกิดในคืนวันคริสต์มาสอีฟครับ ประมาณว่าหนังเล่าเรื่องของคนที่ติดอยู่ในลิฟต์ ซึ่งตอนอ่านเรื่องย่อครั้งแรก ผมนึกว่าพวกเขาติดในลิฟต์ตัวเดียวกัน แล้วก็ได้มารู้จักกันระหว่างที่ติดอยู่ในลิฟต์นั้น แต่ปรากฏว่าไม่ใช่แฮะ

เหมือนว่าทั่วเมืองเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค เลยมีลิฟต์หลายตัวที่ค้าง และหนังก็แบ่งสรรปันเวลาไปเล่าเรื่องของคนที่ติดอยู่ในลิฟต์แต่ละตัวที่ค้างนั่นแหละ บ้างก็ทะเลาะกัน บ้างก็แบ่งปันเรื่องราวกัน หรือบางคนก็ต้องอยู่ในเดียวในลิฟต์ จนหงุดหงิดอาละวาดกันไป

จุดอ่อนอย่างแรกเลยก็คือ หนังมีตัวละครเยอะครับ อย่างที่บอกว่ามีลิฟต์หลายตัวและมีคนหลายคนในลิฟต์พวกนั้น การแบ่งพื้นที่เล่าเรื่องมันเลยออกจะจำกัด ทำให้หนังไม่สามารถลงลึกเรื่องราวของใครได้แบบเต็มๆ

คนที่ถือว่าเอาตัวรอดได้ก็คือ Stewart ครับ เพราะเขารับบทเป็นชายแก่อารมณ์ร้าย แบบเดียวกับที่เขาเคยเล่นเป็นสครูจใน A Christmas Carol ซึ่งเขาติดลิฟต์อยู่คนเดียวครับ เลยได้แสดงอารมณ์แบบไม่โดนใครแย่งความเด่น และเขาก็แสดงได้ดีด้วยครับ

ท่าทางของตอนอารมณ์ร้ายก็แบบหนึ่ง ประมาณว่าพอติดลิฟต์ก็อยากได้คนช่วย แต่เขาพูดจาไม่ดี ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย ครั้นพอได้เรียนรู้แล้วว่าความขี้หงุดหงิดของเขาเป็นอะไรที่ไม่น่ารักเลย เขาก็สามารถถ่ายทอดบท “คนที่ดวงตาเห็นธรรม” ได้อย่างพอเหมาะ

จริงๆ ผมว่าเรื่องของคนในแต่ละลิฟต์นั้นมีความน่าสนใจอยู่ครับ แต่อย่างที่บอกว่าหนังมีเวลาจำกัด เลยแตะเรื่องของคนอื่นๆ ได้แค่ผิวๆ ทั้งที่ถ้ามองในเรื่องการแสดงแล้ว ผมว่าหลายคนเล่นดีนะ จนอดเสียดายไม่ได้เหมือนกันที่พวกเขาไม่ได้รับเวลามากกว่านี้

ผมชอบตัวละครที่ชื่อ เกลน (Steve John Shepherd) ครับ เขาเป็นคนเนิร์ดๆ ดูหงอๆ แต่จริงๆ มีความรู้และเป็นคนน่ารัก ฉากที่เขาแสดงให้คนในลิฟต์เห็นว่างานของเขาคิืออะไรนี่เป็นไฮไลท์หนึ่งทีเดียว (เขาทำหน้าที่เป็นเหมือนคนที่เป็นผู้บรรยาย-พาทัวร์ในหอศิลป์น่ะครับ ฉากที่ว่านี่เขาสามารถบรรยายจนกำแพงลิฟต์ธรรมดาๆ กลายเป็นประหนึ่งภาพล้ำค่าไปเลย)

ฉากตอนทุกคนออกมาจากลิฟต์ (ลิฟต์ที่มีเกลนอยู่) แล้ว กลายเป็นว่าสาวๆ ที่อยู่ในลิฟต์เดียวกับเกลนดันไปรุมสนใจคนหล่อกล้ามโตมากกว่า มันก็สะท้อนความจริงได้ดีครับ ว่ายังไงคนหล่อๆ ล่ำๆ ก็ได้เปรียบอยู่แล้ว ส่วนคนเนิร์ดๆ เหนียมๆ แม้จะมีความรู้แค่ไหน มีท่าทีเป็นสุภาพบุรุษแค่ไหนก็อาจจะไม่ได้รับการเหลียวมองในทันที

พูดๆ ตรงผมว่าหนังไม่ได้แย่ครับ เพียงแต่ยังดีได้อีกเยอะ จริงๆ ถ้าหนังจะเล่าเรื่องในลิฟต์หลายตัวก็ยังโอเคน่ะครับ ถ้าสัก 3 – 4 ตัวก็น่าจะพอไหว แต่นี่น่าจะประมาณ 6 เหตุการณ์น่ะครับ และตัวละครในแต่ละเหตุการณ์ก็ไม่น้อยด้วย มันเลยเป็นของยากหากจะทำให้ออกมากลมกล่อมลงตัวมากๆ ได้

ยังไม่จบ พรุ่งนี้มาต่อกันครับ

รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

 

 

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว Slumdog Millionaire (2008) สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ คำตอบสุดท้าย อยู่ที่หัวใจ

2597 0

เชื่อไหมครับว่าผมเพิ่งดู Slumdog Millionaire จบเมื่อวานนี้เอง ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ไม่ใช่ไม่อยากดูนะครับ ผมน่ะดูตั้งแต่วันแรกๆ ที่หนังมาเลย แต่วันนั้นผมนั่งดูกับแฟน (ที่ปัจจุบันเธอคือภรรยาของผมนั่นเอง) แล้วเธอรู้สึกว่าหนังมันเครียด เธอเลยขอไม่ดู ผมก็เลยหยุดดูตามคำขอ แล้วจากนั้นผมก็ไม่ได้ดูมันอีกเลยตั้งหลายปีล่วงมาแล้ว … บางครั้งเราก็ต้องทำเพื่อรักน่ะนะครับ ครั้นพอหยิบมาดูวันนี้ หนังดีจริงอะไรจริง ดูแล้วเต็มอิ่มทีเดียว ช่วงต้นๆ ของหนังก็ดูเครียดเล็กๆ จริงๆ ล่ะครับ แต่มันน่าติดตามนะ บทหนังเขียนได้ฉลาดมากๆ กับการเอาเหตุการณ์เล่นเกมเศรษฐีของจามาล (Dev Patel) มาเล่าสลับกับอดีตของเขา ซึ่งหนังร้อยเรียงและบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างพอเหมาะอย่างยิ่งเลยครับ สนุกมาก ชวนติดตามมาก โดยรวมแล้วมันคือหนังดราม่าผสมผจญภัย (ในโลกที่โหดร้าย) เข้ากับหนังโรแมนติกแบบพอดีๆ ทุกส่วนผสมกันลงตัว

รีวิว Lone Survivor (2013) ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด

2344 0

จำได้ว่า Lone Survivor เป็นหนังที่ผมผัดผ่อนในการดูนานมากๆ ไม่ใช่คิดว่าหนังไม่ดีนะครับ คือมันรู้น่ะว่าหนังดีแน่ แต่อารมณ์ช่วงนั้นยังไม่อยากดูหนังกดดันสักเท่าไร ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ครั้นพอดูแล้วก็ไม่กังขาในความดีครับ แล้วระหว่างดูก็รู้สึกกดดันสมดังคาดไว้จริงๆ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Shin Godzilla (2016) ก็อตซิลล่า (ตอนจบ)

2798 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด พี่ก็อตภาคนี้จัดเป็นภาค Reboot แบบ 100% ครับ เพราะโลกในหนังนั้นคือโลกที่ไม่เคยมีก็อตซิลล่าหรือสัตว์ประหลาดอื่นใดปรากฏตัวมาก่อน ดังจะเห็นได้จากปฏิกิริยาของทุกตัวละครที่ต่างก็ตกใจ ทางด้านรัฐบาลเองก็ไม่รู้จะรับมืออย่างไร กระทั่งนักวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆ ก็ต้องมาทำการนับหนึ่งเพื่อหาคำตอบว่าเจ้าสัตว์ลึกลับตนนี้มันมาจากไหน และจะสยบมันได้อย่างไร ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด