Like This Video 1810

Added by พี่หมื่น 12/02/2015

เรื่องราวอันน่าประทับใจของเจ้าวินเทอร์ โลมาน้อยพิการแต่ใจสู้ยังไม่จบครับ ใน Dolphin Tale 2 เราจะได้เห็นซอว์เยอร์ เนลสัน (Nathan Gamble) หนุ่นหน้ามนคนเดิมที่ช่วยเจ้าวินเทอร์ไว้ คราวนี้เขามาทำงานอาสาสมัครที่โรงพยาบาลแบบเต็มตัวครับ คอยแนะแนวและให้กำลังใจเยาวชนรุ่นใหม่ในการทำงานเพื่อสังคมและเพื่อสัตว์ทะเลร่วมโลก

แต่แล้วก็เกิดเหตุน่าเศร้าขึ้น เมื่อ “ปานามา” โลมาร่วมบ่อของวินเทอร์ตายจากไป แล้วปัญหาคือโลมาน่ะเป็นสัตว์สังคม ตามธรรมชาติแล้วมันไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ ดังนั้นหากพวกซอว์เยอร์ไม่สามารถหาโลมาตัวอื่นมาอยู่กับเจ้าวินเทอร์ได้ มันก็จะถูกส่งต่อไปที่อื่นแทน นั่นล่ะครับ โจทย์สำคัญของภาคนี้

ความสนุกจัดว่าไม่น้อยหน้าภาคแรกเลยครับ ส่วนหนึ่งคงเพราะทีมงานเดิมที่ยกเซ็ทกันมา ตั้งแต่ดารานำอย่าง Gamble, Morgan Freeman, Ashley Judd, Harry Connick Jr., Kris Kristofferson และ Cozi Zuehlsdorff ตามด้วยผู้กำกับ Charles Martin Smith ที่หนนี้ควบตำแหน่งเขียนบทอีกหนึ่งงาน บรรยากาศและอารมณ์มันเลยใกล้เคียงกับภาคแรกอย่างยิ่งครับ

ด้านการเดินเรื่องก็ยังน่าติดตามอยู่ เพราะปมในเรื่องถือว่ามีจุดให้ลุ้นอยู่เหมือนกันครับ เนื่องจากเจ้าวินเทอร์ต้องมีเพื่อนร่วมบ่อ การควานหาโลมาที่เหมาะสมก็ยากพออยู่แล้ว และปัญหาคือเจ้าวินเทอร์น่ะใส่หางเทียมครับ ดังนั้นการสื่อสารของเจ้าวินเทอร์จะไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เลยทำให้โลมาทั่วไปจะไม่ยอมรับเจ้าวินเทอร์ง่ายๆ บางตัวก็ตีความว่าเจ้าวินเทอร์เป็นศัตรูไปเลยก็มี

นี่แหละครับ ปมสำคัญของภาคที่ทำให้เกิดความลุ้นอย่างได้ผล อย่างเวลาเจ้าวินเทอร์เจอโลมาตัวใหม่นี่ ตอนแรกก็ยังไม่มีอะไรครับ แต่พอฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอาการแปลกๆ คนดูอย่างเรานี่ก็อดเกร็งไม่ได้น่ะครับ คือกลัวว่ามันจะทำร้ายกันไหม มันจะเข้ากันได้ไหม ฯลฯ ถ้ามองในแง่ความอินนี่ถือว่าหนังทำได้สำเร็จทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีปมของซอว์เยอร์ ที่เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องเลือกทางเดินชีวิตต่อไป มีคำถามว่าจะเป็นยังไงหากงานที่เขารัก งานที่เขาอยากทำไปตลอดชีวิตนั้นไม่ใช่งานที่มั่นคงพอ หรือหากเขาต้องเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่นล่ะ เขาจะจัดการกับตัวเองเพื่อรับมืออนาคตที่ไม่แน่นอนได้อย่างไร ฯลฯ เรียกว่าก็มีกลิ่นอายความเป็นหนัง Coming of Age อยู่ไม่น้อยครับ และก็เป็นการตั้งประเด็นที่ชวนให้คนดู (โดยเฉพาะวัยรุ่น) เก็บไปครุ่นคิดได้อย่างดี

เป็นหนังภาคต่อที่ดูสนุกครับ หนังยังมีความอบอุ่นผสมอยู่ มีความลุ้น มีความน่ารัก และมีความ Feel Good ซึ่งผมชื่นชมนะครับ เพราะหนังภาคต่อของหนังแนวสัตว์เพื่อนรักนั้น ส่วนมากภาค 2 จะดร็อปลง แต่กับเรื่องนี้ ผลที่ได้ถือว่าใกล้เคียงกับภาคแรก (คือภาคแรกดีกว่านิดนึง แต่ภาคนี้ก็ยังพูดได้เต็มปากว่าคุ้มค่าน่าดูสำหรับคอหนังแนวนี้)

อยากให้ดูกันครับ พ่อแม่เอาให้ลูกดูก็ดีเหมือนกัน เพราะมันไม่ใช่แค่หนังสอนให้ลูกรักธรรมชาติ แต่ยังสอนให้ลูกเห็นโลกผ่านเรื่องราวต่างๆ สอนให้เห็นว่าโลกนี้มีทั้งขาวดำ บวกลบ สุขทุกข์ ซึ่งเราหนีมันไม่พ้นครับ ยังไงสักวันก็ต้องเจอ แต่เมื่อเราเจอแล้ว อย่างน้อยเราก็จัดการมันได้ หากเราเตรียมตัวมาพร้อมพอ

ถ้ายังไม่ได้ดูภาคแรกก็หามาดูนะครับ
คะแนนความชอบ 7.5/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน