รีวิว La famille Bélier (2014) ร้องเพลงรักให้ก้องโลก
ท่านใดชอบหนัง Feel Good ปรุงน้อยแต่อร่อยพอเหมาะ (คือไม่ถึงขั้น Feel Real แต่ก็ไม่ได้ปรุงแต่งใส่สีอะไรมาก) และผสมด้วยเรื่องราวของเสียงเพลงล่ะก็ ผมขอแนะนำเรื่อง La famille Bélier ให้ลองไปลิ้มกันได้เลยครับ
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
หนังสัญชาติฝรั่งเศสเรื่องนี้ว่าด้วยสาวน้อยพอลล่า (Louane Emera) สมาชิกครอบครัวเบลิเยร์เพียงคนเดียวที่พูดและได้ยินตามปกติ ในขณะที่พ่อ (François Damiens), แม่ (Karin Viard) และน้องชายของเธอ (Luca Gelberg) ล้วนหูหนวกและเป็นใบ้ด้วยกันทั้งสิ้น
ทีนี้จริงๆ แล้วพอลล่าเธอมีพรสวรรค์ทางเสียงที่แสนไพเราะจับจิตมากๆ ครับ ทว่าทีผ่านมาเธอไม่เคยรู้เลย เนื่องจากเวลาอยู่บ้านเธอก็ไม่ค่อยได้ใช้เสียงอยู่แล้ว พออยู่โรงเรียนก็มักจะถูกมองว่าแปลกกว่าคนอื่น (เพราะคนในครอบครัวเป็นใบ้) จนกระทั่งวันหนึ่งในชั้นเรียนดนตรีที่คุณครูค้นพบความสามารถนี้โดยบังเอิญ
แต่ก็นั่นล่ะครับ เธอเองก็ไม่มั่นใจหรอกว่าตัวเองเสียงดีจริงๆ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าเธอจะยอมลองฝึกฝนพลังเสียงอันนี้ ท่ามกลางความรู้สึกสับสน อีกทั้งคนในครอบครัวของเธอบางครั้งก็ไม่เข้าใจเธอด้วยเหมือนกัน (ส่วนหนึ่งเพราะแต่ละคนก็ไม่ได้ยินน่ะครับ เลยไม่รู้สึกถึงความพิเศษของเสียงที่ไพเราะ)
หนังถือว่าทำออกมาได้พอเหมาะครับ อย่างที่บอกว่า Feel Good แต่ไม่ปรุงอะไรมาก การเดินเรื่องอาศัยพลังของดาราที่ถือว่าเล่นกันได้ดีและน่ารักครับ ทุกคนในครอบครัวเบลิเยร์ดูเป็นครอบครัวจริงๆ คือมีทั้งมุมน่ารักต่อกัน, มีมุมที่ไม่เข้าใจกัน หรือมีมุมมที่เอาทิฐิเขาชนกัน เลยทำให้พวกเขาดูมีเลือดเนื้อ รับส่งอารมณ์ได้อย่างดี (แม้จะไม่ได้พูดกันเลยสักคำครับ มีเพียงส่งภาษามือใส่กันเท่านั้น)
และยิ่งคนในครอบครัวดู “จริง” เท่าไร ตัว “พอลล่า” เองก็พลอยดูจริงยิ่งขึ้น และทำให้คนดูรู้สึกอยากเอาใจช่วยเธอให้ผ่านพ้นอุปสรรคมากขึ้นด้วย เพราะจริงๆ แล้วเธอเป็นคนน่ารักครับ เพียงแต่หลายๆ อย่างในชีวิตเธอมันจะซับซ้อนกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง
Louane Emera นางเอกของเรื่องก็เสียงดีจริงครับ ซึ่งก็ไม่แปลกหรอกเพราะเธอชนะการประกวด The Voice ของฝรั่งเศส เรียกว่าชนะใจคนมาทั่วฝรั่งเศส และยังสามารถชนะใจคนดูอย่างเราๆ ได้ด้วย แน่นอนครับว่าการแสดงของเธอยังไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็ถือว่าเล่นได้ลื่น กำลังดี พอเหมาะไปกันได้กับสไตล์หนังที่ไม่ได้ฉูดฉลาดหรือปรุงอะไรมากมายจนเกินไป
ดารารายอื่นๆ ก็เล่นได้ดีครับช่วยเพิ่มอารมณ์ตลก+อบอุ่นให้กับหนังได้อย่างดี และอีกตัวละครหนึ่งที่ผมชอบคือคุณครูฟาเบียน (Eric Elmosnino) ที่ค้นพบพรสวรรค์ของพอลล่าแล้วก็อยากส่งเสริมเธอ ตัวละครนี้ไม่เหมือนตัวละครครูฮีโร่ในหนังสไตล์นี้เรื่องอื่นๆ ที่มักจะออกอารมณ์ชัดเจนว่าอยากช่วยเด็กมากๆ แต่ครูฟาเบียนจะออกแนวคอยแนะนำ แนะแนว และไม่กล้าก้าวก่ายอะไรมากเกินไป เพราะเขาถือว่าเสียงนี้เป็นเสียงของพอลล่า ดังนั้นเธอจะใช้มันหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของพอลล่าเอง เรียกว่าเป็นครูที่ดูดุในบางวาระ แต่ก็เคารพในความต้องการของเด็กมากกว่าความต้องการของตนเอง ก็ถือเป็นอีกสไตล์ของคาแรคเตอร์คุณครูที่น่าจดจำไปอีกแบบครับ
เป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุขครับ เรื่อยๆ แต่น่าติดตาม เพียงแต่หนังอาจจะมีพล็อตรองที่ดูเกินนิดๆ อย่างการที่พ่อของพอลล่าอยากลงสมัครตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งก็ดูเป็นประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตอนเขาแถลงต่อหน้าชาวบ้านในเชิงต่อต้านเทคโนโลยีอะไรแบบนั้น (ซึ่งค้านกับความต้องการของชาวบ้านที่อยากมี Wi-fi ใช้ทุกหลังๆ) เพียงแต่หนังไม่ได้เน้นตรงนี้มากเท่าที่ควร คาดว่าคงเพราะหนังอยากจะใช้เวลาไปกับพล็อตหลักเรื่องของพอลล่ามากกว่าน่ะครับ เลยเล่าเรื่องของพ่อเธอเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น
เอาล่ะครับ สรุปว่าหนังน่าดูครับ ถ้าใครชอบหนังดราม่าน่ารักๆ แบบไม่ปรุงก็ลองดูได้ครับผม เชื่อว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆ คน
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ปล. (ถัดจากนี้มีสปอยล์นะครับ)
อีกฉากที่ผมชอบคือตอนท้ายที่พอลล่าไปถึงการคัดตัวน่ะครับ ที่เธอร้องเพลงต่อหน้ากรรมการซึ่งเธอไม่ได้ส่งเสียงอย่างเดียว แต่เธอถ่ายทอดมันออกมาเป็นภาษามือด้วย ซึ่งผมรู้สึกเลยนะว่าฉากนี้เธอร้องดีที่สุดจริงๆ
อารมณ์มันประมาณว่าก่อนหน้านี้เธอร้องด้วยเสียงของเธอก็จริง แต่ถ้าว่าตามจริงภาษาที่เธอใช้เป็นส่วนใหญ่มาตลอดชีวิตคือภาษามือ ไม่ใช่ภาษาพูด ดังนั้นการใช้เสียงยังไงมันก็สื่ออารมณ์ของเธอได้เพียงระดับหนึ่ง ทว่าพอเธอใช้เสียงพร้อมกับภาษามือ อันเป็นภาษาที่เธอใช้สื่อสารกับครอบครัวที่เธอรักมาตลอด อารมณ์มันจึงไหลมาเทมา พลังมันจึงเกิดขึ้นอย่างสวยงาม
เธอสามารถร้องเพลงสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างถึงขีด ก็ต่อเมื่อเธอได้สื่อมันออกมา พร้อมภาษามือที่เธอใช้เป็นสื่อภาษาใจกับพ่อแม่และน้องชายมานานหลายสิบปี
ชอบครับ ฉากที่ว่านี่ชอบและซึ้งมากมายจริงๆ
สรุปอีกทีนะครับ ดูเลยครับเรื่องนี้
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Eye in the Sky (2015) แผนพิฆาตล่าข้ามโลก
1913 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ช่วงนี้มีหนังว่าด้วยเรื่องของโดรนออกแผ่นไล่ๆ กัน และแต่ละเรื่องยังชื่อไทยแบบใกล้กันโคตรๆ ด้วยครับ อย่างเรื่องนี้ชื่อไทยว่า “แผนพิฆาต ล่าข้ามโลก” ส่วนอีกเรื่อง Good Kill มีชื่อไทยว่า “โดรนพิฆาต ล่าพลิกโลก” (อะไรจะคิดได้ใกล้กันปานนั้น) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิวซีรี่ส์ Shitamachi Rocket (2015)
2089 0https://www.youtube.com/watch?v=1sSLwd8bwkA ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด มินิซีรี่ส์แนวสร้างแรงบันดาลใจอีกเรื่องของญี่ปุ่นครับ สร้างจากนิยายของ Jun Ikeido (คนเดียวกับที่เขียน Hanzawa Naoki และ Roosevelt Game น่ะครับ) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Before I Fall (2017) ตื่นมา ทุกวัน ฉันตาย (ตอนที่ 1)
2652 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ภรรยาผมพูดขึ้นหลังดูหนังเรื่องนี้จบว่า “เราไม่มีโอกาสที่จะทำให้วันไหนดีขึ้นได้ นอกจากวันนี้… ว่าอย่างนั้นมั้ย?” แล้วผมก็พยักหน้าตอบรับครับ ^_^ (บอกก่อนครับ บทความนี้ยาว เพราะหนังมันถูกจริตมากมาย) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด