รีวิว The Peanuts Movie (2015) สนูปี้ แอนด์ ชาร์ลี บราวน์ เดอะ พีนัทส์ มูฟวี่
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
การ์ตูนชุดของสนูปี้และชาร์ลี บราวน์ นั้นถือเป็นการ์ตูนประเภท Feel Good ที่อมตะมากๆ เรื่องหนึ่งครับ
ตอนสมัยคอมมิคนั้นตัวเรื่องอาจออกแนวเสียดสีผสมอารมณ์ขัน (ที่บางครั้งก็มาในแนว “ฮาเจ็บๆ”) แต่สำหรับฉบับเรื่องยาวแล้ว ส่วนมากจะมาในแนว Feel Good ดูแล้วรู้สึกดี บางตอนก็อบอุ่นมากๆ และแต่ละตอนก็จะมีคติสอนใจที่น่ารักเสมอ
สำหรับฉบับโรงใหญ่นี้พล็อตหลักก็ยังอยู่ที่ความเปิ่นซื่อและน่ารักของชาร์ลี บราวน์ ที่มักจะถูกเพื่อนๆ หัวเราะได้เสมอ และล่าสุดก็มีเพื่อนนักเรียนคนใหม่ในห้องครับ เป็นสาวน้อยน่ารักแบบสุดๆ ซึ่งชาร์ลีก็หมายจะทำให้เธอประทับใจ ก็เลยวางแผนสร้างภาพลักษณ์ตัวเองให้ดูเท่ห์กว่าที่เคยเป็น
แต่ผลสุดท้ายแล้วเรื่องจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันครับ แล้วอีกพล็อตก็ว่าด้วยเจ้าสนูปี้ไปเจอเครื่องพิมพ์ดีดเข้า ด้วยอารมณ์ศิลปินแบบหมาๆ มันก็เลยปั่นนิยายสุดเข้มข้นว่าด้วยการต่อสู้กลางเวหาระหว่างนักบินที่มีบ้านสุนัขเป็นพาหนะ กับคู่อาฆาตสุดร้าย ฉายาเรดบารอน
หนังเรื่องนี้ยังดูสนุกเพลินอยู่ตามสไตล์ตัวการ์ตูน Peanuts น่ะครับ เป็นส่วนผสมระหว่างความน่ารักและความกวนแสบป่วน แต่ละตัวละครก็มาพร้อมคาแรคเตอร์ประจำตัวที่มักจะสร้างเสียงฮาให้ได้เสมอ
เรียกว่าถ้าใครผูกพันกับตัวละครชุดนี้ก็น่าจะเพลินกับหนังได้น่ะครับ หรือถ้าใครเป็นหน้าใหม่ก็ตาม แต่หากชอบการ์ตูนแนวฮาๆ น่ารักๆ แบบเก่าๆ ก็น่าจะสนุกได้ไม่แพ้กัน
สำหรับผมแล้ว สารภาพครับว่ายังชอบฉบับเก่าๆ มากกว่าอยู่ ว่าง่ายๆ คือสมัยลายเส้น 2D วาดแบบธรรมดาๆ ซึ่งก็เหมือนตอนดูโดราเอมอนนั่นแหละครับ ตอนดูเป็น 3D แล้วมันไม่ชิน และไม่อินเท่าไร ไม่เหมือนสมัยลายเส้นวาดที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นความอินในของใหม่มันเลยไม่มากเท่าของเก่า
และว่าตามจริงแล้ว เนื้อเรื่องของตอนเก่าๆ หลายตอนก็ทำออกมาได้ประทับใจโดยไม่ต้องอลังการอะไรมากครับ ดูง่ายๆ แต่กินใจ ดูไม่ซับซ้อนแต่สอนใจ ในขณะที่ฉบับนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายๆ ฉากดูจะทำขึ้นเพื่อโชว์ความเป็น 3D มากกว่าจะเน้นเนื้อหาสาระ
แต่กระนั้นผมก็ยังชอบครับ ดูสนุกดี พร้อมทั้งได้คติสอนใจง่ายๆ อย่างเรื่องความมั่นใจในตนเอง ซึ่งเป็นธีมหลักของตัวชาร์ลี บราวน์ก็ว่าได้ ที่เขามักจะเปิ่นๆ ซื่อๆ บางครั้งก็กลายเป็นตัวตลกสำหรับหลายๆ คน แต่เนื้อแท้แล้วเขาเป็นคนดีครับ เขามีความจริงใจ และมีจิตใจเอื้อเฟื้อ อันเป็นเสน่ห์ขนานแท้ของเจ้าเด็กหัวกลมคนนี้
ผมว่าหนังการ์ตูนชุดชาร์ลี บราวน์ สามารถเอามาสอนใจเด็กๆ ได้อย่างดีเลยล่ะครับ สอนเรื่องการแบ่งปัน เรื่องความสามัคคี เรื่องมิตรภาพ เรื่องความมั่นใจ เรื่องคุณค่าที่แท้จริงของคน (ที่ไม่ได้วัดกันแค่ภาพลักษณ์ภายนอกหรือการกระทำเอาหน้าแค่ชั่วครั้งคราว)
นี่แหละครับเหตุผลที่ผมชอบการ์ตูนชุดนี้เสมอมา มันคือการ์ตูนเติมพลังใจและเติมอารมณ์ Feel Good ที่ยอดเยี่ยมมากๆ ชุดหนึ่งเลยล่ะครับ
ถ้าใครอยากดูการ์ตูนชุดนี้ตอนที่เจ๋งมากๆ ล่ะก็ ขอแนะนำ A Charlie Brown Christmas เลยครับ อบอุ่นและกินใจมากมาย แต่เรียบง่ายเหลือหลายจริงๆ
คะแนนความชอบ 7.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Hitting the Apex (2015) ซิ่งทะลุเส้นชัย
2318 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทุกวันนี้ ผมรู้ตัวเลยครับว่าตัวเองรู้สึกในเชิงลบกับรถมอเตอร์ไซค์ หลังจากเคยล้ม 2 รอบติดๆ กัน (เพราะคนอื่นขับมาเกี่ยว), โดนมอเตอร์ไซค์จ่อก้นเกือบทุกครั้งที่ออกไปเดินตรงฟุตบาทแถวบ้าน (ย้ำครับว่า ฟุตบาท ไม่ใช่ถนน) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Resident Evil: Vendetta (2017) ผีชีวะ สงครามแค้นแพร่พันธุ์ไวรัส
2353 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ยอมรับว่าระยะหลังมาเนี่ย หากให้เทียบระหว่าง Resident Evil เวอร์ชั่นหนังกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นว่าชอบฉบับไหนมากกว่ากันแล้ว ดูเหมือนว่าคำตอบของผมจะเป็นว่า ผมจะสนุกเพลินกับเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมากกว่าทุกทีครับ เอาเข้าจริงเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ครับ หลักๆ ก็เป็นการไล่ตามล่าตามล้างความชั่วที่พวกอัมเบรลร่าทำ ในขณะที่เวอร์ชั่นหนังถ้าดูจากเนื้อหาแล้ว ดูจะมีความพยายามใส่อะไรหลายๆ อย่างที่มันสดใหม่กว่า แต่พอมาดูเนื้อในเข้าจริงๆ แล้ว ฉบับหนังที่ดูเหมือนจะใหญ่ กลับขาดความเข้มข้นทั้งที่พยายามใส่เรื่องราวลงไปตั้งเยอะ ไปๆ มาๆ เหมือนจะเป็นการพยายามโชว์ CG เสียมากกว่าจะใส่ใจที่เรื่องราวจริงๆ (และบางภาคเปิดปมมาดีมาก แต่พอเล่าไปชักออกทะเลแฮะ) ส่วนเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นแม้จะเป็นอะไรที่มันเดิมๆ และเดาได้ แต่การนำเสนอออกแนว “น้อยแต่แน่น” มีการโฟกัสทิศทางเรื่องที่ชัดเจน โดยรวมๆ แล้วผลที่ได้ก็คือ “ไม่ต้องพยายามเล่นใหญ่ก็ได้ แต่ออกมาสนุกแบบพอดีคำ” หรืออาจจะเพราะฉบับแอนิเมชั่นไม่ทำให้เราคาดหวังก่อนดูก็ได้ครับ พอดูแล้วเลยไม่ผิดหวัง
รีวิว Big Miracle (2012) ปาฏิหาริย์วาฬสีเทา
1837 0ถ้าใครชอบหนังว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเหล่าสัตว์โลกน่ารักแล้วล่ะก็ Big Miracle น่าจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวทีเดียวครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด