รีวิว The Danish Girl (2015) เดอะ เดนนิช เกิร์ล
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ก่อนหนังเรื่องนี้จะเข้าฉาย กระแสการมารับบทชายที่มีจิตใจเป็นหญิงของ Eddie Redmayne ได้รับการพูดถึงมากครับ เรียกว่าทำให้หนังดูจับตาขึ้นมาทันที
หนังดัดแปลงจากชีวิตจริงของ ไอนาร์ เวเกเนอร์ (Redmayne) จิตรกรหนุ่มที่ใช้ชีวิตตามประสาศิลปินกับภรรยานามว่า เกอร์ด้า (Alicia Vikander) ซึ่งอยู่มาวันหนึ่งเขาได้ลองแต่งเป็นหญิงครับ และนั่นทำให้เขาค้นพบความเป็นหญิงที่ซ่อนอยู่ภายใน จนในที่สุดเขาจึงตัดสินใจที่จะแปลงเพศตนเอง
ตัวหนังไม่ได้หวือหวาครับ การเดินเรื่องถือว่าเรื่อยๆ ซึ่งในเบื้องต้นก็คงไม่เหมาะสำหรับคอหนังที่ชอบอะไรที่มีสีสันหรือลูกเล่น ว่าง่ายๆ เลยคือคนที่ไม่ถนัดหนังดราม่าจริงจัง ก็อาจจะเบื่อหรือเฉยๆ กับหนังเรื่องนี้ได้ครับ
แต่สำหรับผม ผมมองว่าหนังนำเสนอในเชิงให้เกียรติเรื่องราวของไอนาร์ครับ หนังไม่ได้พยายามวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้น แต่หนังเลือกจะนำเสนอเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตของไอนาร์และเกอร์ด้าอย่างเรียบง่าย และตรงไปตรงมา ปราศจากการปรุงแต่ง
โดยส่วนตัวผมชอบนะ แม้บางจังหวะจะมีแอบเบื่อบ้างก็เถอะ (เพราะบางช่วงมันเนิ่บมากจริงๆ ครับ) แต่พอดูไปสักพักและปรับเข้ากับสไตล์หนังได้ เราก็จะโอเคกับหนังไปจนจบครับ
ระหว่างดูไม่รู้ใครเป็นเหมือนผมไหมนะครับ แต่เหมือนบรรยากาศในเรื่องตอนแรกมันดูเรียบๆ นะ ครั้นพอไอนาร์เริ่มเลือกที่จะเป็นหญิง โทนหนังมันเจืออยู่ระหว่างความสว่าง (ที่ไอนาร์ค้นพบตนเอง) และความกดดันอึดอัด (เพราะการแปลงเพศในสมัยนั้นเป็นประหนึ่งเรื่องต้องห้ามก็ว่าได้)
อารมณ์มันก้ำกึ่งระหว่างสุขและทุกข์ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ตัวละครประสบครับ แล้วจังหวะของหนังก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์นั้นมาถึงคนดูได้ดีในระดับหนึ่ง
โดยส่วนตัวแล้ว พลังจริงๆ ของหนังคือการแสดงครับ Redmayne ยังคงแสดงฝีมือออกมาได้อย่างน่าจดจำ เขาสามารถถ่ายทอดบทของ “เธอ” ออกมาได้อย่างดี
แต่กระนั้นหากว่าตามจริงแล้ว ตัวบทของไอนาร์ในหนังนั้นไม่ค่อยจะเปิดโอกาสให้ Redmayne ได้แสดงอะไรสักเท่าไร อย่างที่บอกน่ะครับว่าหนังนำเสนอเรื่องราวผ่านเหตุการณ์ มากกว่าจะมาเจาะลึกถึงอารมณ์หรือความรู้สึกของไอนาร์ ทำให้ Redmayne ไม่มีโอกาสที่จะลงลึกหรือดึงคนดูให้จมไปกับบทนี้
ในทางกลับกัน คนที่ดูเด่นกว่าคือ Vikander ครับ เธอได้แสดงอารมณ์หลากระดับมาก ตั้งแต่อารมณ์สนุก อารมณ์สาวมั่น อารมณ์เศร้า อารมณ์เสียใจ อารมณ์โกรธ อารมณ์รัก อารมณ์โหยหา อารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จนผมไม่แปลกใจเลยที่เธอได้ออสการ์มาครอง (และหลายสถาบันก็ยกรางวัลนี้ให้เธอด้วย)
เธอเล่นได้ถึงครับ เล่นได้ดีจริงๆ จนลึกๆ ผมแทบจะรู้สึกว่าระหว่างดูหนังเรื่องนี้ผมได้รู้จักเกอร์ด้ามากกว่าไอนาร์หรือลิลี่เสียอีก
สรุปโดยรวม ความคุ้มของการชมหนังเรื่องนี้คือได้เห็นการแสดงดีๆ ของ 2 ดารานำครับ ในขณะที่จังหวะของหนังถือว่าทำได้บรรยากาศนะ แต่ในแง่ความลึกซึ้งหรือความอินอาจยังไม่มากขนาดนั้น แต่ก็ถือเป็นอีกงานที่น่าจดจำของ Tom Hooper ครับ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Vampire Academy (2014) แวมไพร์ อะคาเดมี่ มัธยม มหาเวทย์
2346 0ผมยังไม่เคยอ่านฉบับนิยายของ Vampire Academy ครับ เลยไม่รู้ว่ามันมีความต่างกันมาน้อยแค่ไหน แต่ถ้าถามผมเฉพาะดูจากตัวหนังล่ะก็ ผมว่าหนังดูได้เพลินๆ อยู่ครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Fantastic Four (2015) แฟนแทสติก โฟร์
1926 0การดู Fantastic Four ล่าหลังกว่าคนอื่นคงถือเป็นความโชคดีประการหนึ่งครับ เพราะหลังจากผ่านตาคำบ่นของคนดูมามากๆ เข้า อันว่าความคาดหวังของเราก็ลดต่ำลงตามลำดับ จนก่อนจะตีตั๋วดูนี่ทำใจได้สบายๆ ครับ คือหนังจะแย่แค่ไหนก็รับได้แล้วล่ะ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด และคงเพราะแบบนั้นผมเลยไม่ถึงกับรู้สึกแย่กับ FF ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ชอบหรอกนะครับ คือมันดูได้เรื่อยๆ ดูจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมากมาย ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Ip Man 3 (2015) ยิปมัน 3
2287 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถ้าว่ากันในฐานะหนังภาคต่อแล้ว Ip Man 3 ถือว่าดูได้เรื่อยๆ สนุกไม่เลว แม้จะไม่กลมกล่อมเท่าภาคแรก แต่ก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับภาค 2 (อาจจะมีจุดเด่นต่างกันไปคนละจุด แต่อย่างน้อยพอคิดคะแนนรวมๆ ก็ถือว่าพอๆ กัน ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด