Like This Video 2722

Added by พี่หมื่น 17/09/2016

https://www.youtube.com/watch?v=dlyVshoWJDE

ภาคที่ 3 ของ Never Back Down ซึ่งเมื่อพูดถึงหนังชุดนี้แล้วผมว่าสไตล์มันเปลี่ยนไปในแต่ละภาคนะครับ อย่างภาคแรกนี่ออกแนว The Karate Kid แบบผู้ใหญ่ พอมาภาค 2 ก็เป็นส่วนผสมระหว่างหนังภาคแรกกับหนังบู๊ที่มีโลกแห่งการต่อสู้แบบดิบๆ เข้ามาเกี่ยว

พอมาภาคนี้แม้เรื่องหลักๆ จะว่าด้วยการฝึกสอนศิลปะป้องกันตัว แต่เปลี่ยนสถานที่จากในโรงเรียนมาเป็นสังเวียนนอกอเมริกา และสังเวียนที่ว่าก็เกิดในประเทศไทยนี่เองครับ

เคส วอล์คเกอร์ (Michael Jai White) จากภาค 2 คราวนี้มาเป็นตัวเอกครับ เขาเดินทางมายังประเทศไทยโดยมุ่งหมายว่าจะช่วยเพื่อนในการฝึกเทรนวิชา แต่แล้วก็มีเหตุให้เขาต้องลงสนามอีกหน

น่าสนใจว่าหนังชุดนี้ทุกภาคเขียนบทโดย Chris Hauty ครับ ซึ่งจะว่าไปก็ถือว่าเข้าท่านะ คือแต่ละภาคมันมีธีมว่าด้วยการต่อสู้ในสังเวียนเหมือนๆ กัน แต่สังเวียนมันจะไม่ซ้ำทางกัน แต่ละภาคนำพาเราไปสู่สังเวียนใหม่ๆ เสมอ ซึ่งก็ถือว่าสร้างสรรค์อยู่ครับ

ภาคนี้ก็เป็นสังเวียนที่ดูจริงจังขึ้นกว่า 2 ภาคแรก (ที่ยังอยู่แถวๆ โรงเรียนอยู่ มันเลยไม่ได้ดูหนักอะไรมาก) ผลที่ได้ออกมาก็ไม่เลวครับ สนุกกว่าภาค 2 มันความตื่นเต้นเร้าใจพอประมาณ เชื่อว่าคอหนังแนวอัดกันด้วยหมัดมวยน่าจะโอเคไม่น้อยหนังกำกับโดย Jai White เองเลยครับ (เขารับหน้าที่กำกับตั้งแต่ภาค 2 แล้วล่ะ) ในแง่เนื้อหาอาจไม่ได้เข้มจัดอะไร แต่ก็ดูเพลินในระดับหนึ่ง พอจะมีพล็อตให้ติดตามบ้าง แล้วก็พยายามจัดฉากต่อสู้ให้หนักและสาใจคนดูซึ่งฉากต่อยตีต่อสู้ก็โอเคครับ มันอาจไม่ได้อลังการหรือเร้าใจแบบสุดๆ แต่ก็พอจะกระตุ้นอะดรีนาลีนได้บ้าง และถ้าจะว่าไปแล้ว ฉากบู๊ถือว่าโอสุดใน 3 ภาคครับ อย่างภาคแรกผมว่าเด่นในเชิงเนื้อหามากที่สุด ในขณะที่ภาคนี้มีฉากบู๊เป็นจุดขาย

ยอมรับว่าระหว่างดูนี่ผมนึกถึงหนังบู๊ยุค 80 นะ ช่วงนั้นไม่ว่าจะเกรด A หรือ B ก็จะมีการทำหนังแนวนี้ออกมามาก คืออารมณ์มันใช่เลย เรื่องของการต่อสู้ในสังเวียนแห่งความแกร่ง ที่ย่อมมีทั้งนักสู้ที่ดีและนักสู้ที่ไร้ศักดิ์ศรีปะปนกันอยู่ ชวนให้นึกถึง Bloodfist, Showdown อะไรประมาณนี้ครับ

ถือเป็นหนังบู๊ที่น่าพอใจนะ ยิ่งมองจากว่ามันเป็นหนังลงแผ่นด้วยแล้วก็ถือว่าโอเคทีเดียว ไม่ได้เห่ยเฟยหรือไร้สาระอะไร จัดว่าเหมาะกับคอหนังบู๊ครับ แต่หากใครไม่ชอบหรือต้องการอะไรที่มันอลังการ หนังเรื่องนี้ก็อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับท่านครับและหนังยังมี จา พนม กับ จีจ้า มาร่วมจอด้วยนะครับ จีจ้าได้ออกลีลาบู๊เยอะหน่อย ในขณะที่จา พนมออกแนวรับเชิญครับ อันที่จริงคือมาฮาเป็นหลักเลยก็ว่าได้ (เอาแค่ตอนพี่แกจำผิดคิดว่าเคสเป็นคนอื่นนี่ก็ฮาแล้วล่ะ)เอาเป็นว่าคอหนังบู๊ดูได้เลยครับ หรือใครติดตามหนังชุดนี้มาตลอดก็ลองลิ้มกันได้เลย ไม่น่าจะผิดหวังครับ เพียงแต่อาจต้องปรับใจก่อนดูเพราะสไตล์เรื่องมันเปลี่ยนไปจากเดิมครับ

คะแนนความชอบ 6/10

รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน