รีวิวซีรี่ส์ Stranger Things Season 2 (2017) สเตรนเจอร์ ธิงส์ ปี 2 (ปลอดสปอยล์)
https://www.youtube.com/watch?v=vgS2L7WPIO4 เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา บอกเลยแล้วกันครับว่าถ้าใครชอบปีแรก ต้องตามดูต่อปี 2 โดยพลัน ไม่ต้องรออ่านอะไรแล้ว ส่วนใครไม่เคยดูมาก่อนก็ขอให้ลองทำเช็คลิสต์กับตัวเองก่อนครับ ว่าท่านนั้นชอบหนังลึกลับ+สยอง+ไซไฟที่มาพร้อมอารมณ์ Retro หรือเปล่า?
รีวิว Shut In (2016) หลอนเป็น หลอนตาย
https://www.youtube.com/watch?v=8hEVObAxXMg เป็นหนังที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกหลากหลายหลังดูจบครับ อย่างแรกคือ องค์รวมของหนังนี่ผมออกแนวเรื่อยๆ หลายอย่างมันมีแนวทางที่ดี แต่ก็ไปได้ไม่สุด แล้วพอมันไม่สุดๆ อยู่เรื่อยๆ ก็เลยทำให้ความเบื่อเริ่มถามหาเมื่อผ่านไปครึ่งเรื่อง
รีวิว IT (2017) อิท โผล่จากนรก (ตอนที่ 2)
พวกเขาเล่นกันได้ดีเลยน่ะครับ คือดูแล้วเชื่อว่าเป็นเพื่อนกัน เวลาคุยกันเล่นกับแซวกันดูเป็นก๊วนไปกันได้จริงๆ แล้วพอถึงวาระแห่งมิตรภาพ เวลาต้องไปร่วมเป็นร่วมตาย หรือเวลาขี่จักรยานไปด้วยกันนี่มันดู… ดูเป็น “พวกเขา (จากในหนังสือ)” จริงๆ น่ะครับ
รีวิว What Happened to Monday (2017) 7 เป็น 7 ตาย
ยอมรับครับว่าผมแอบปรามาสหนังเรื่องนี้อยู่นิดๆ… คือไม่ได้คิดว่าหนังจะไม่ดีหรอกครับ เพียงแต่คิดว่าหนังก็คงออกมาเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ (แบบ Unlocked เป็นต้น) ครั้นพอได้ดูก็พบว่าผมสนุกกับหนังมากกว่าที่คิดแฮะ
รีวิว มหาลัยเที่ยงคืน (2016)
เป็นหนังผีที่ดูแล้วได้อารมณ์ทูอินวันครับ ในแง่หนึ่งคือมันมีทั้งอารมณ์สยองขวัญผีๆ สางๆ ผสมกันความตลกตามสไตล์หนังผีไทย… แต่ “ทูอินวัน” ที่ผมบอกตอนต้นนั้น ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องโทนของหนังเท่านั้นหรอกครับ
รีวิว Get Out (2017) ลวงร่างจิตหลอน
หนังระทึกขวัญสั่นประสาทที่ได้รับการพูดถึงมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และยังเป็นหนังทำกำไรมหาศาลให้กับค่าย Blumhouse อีกด้วย (ลงทุน $4.5 ล้าน โกยไป $252 ล้านจากทั่วโลก)
รีวิวซีรี่ส์ Riverdale Season 1 (2017) ริเวอร์เดล ปี 1 (มีสปอยล์)
และที่ไม่ชมไม่ได้คืองานภาพที่สีสันจัดจ้าน เล่นแสงสีได้สวยมากๆ โดยเฉพาะร้าน Pop’s ที่เป็นร้านประจำของตัวเอก แสงสีมันสดได้ใจจริงๆ อีกฉากก็ตอนพวกตัวเอกต้องถือไฟฉายไปส่องหาหลักฐานเงื่อนงำในที่มืดน่ะครับ สีของแสงมันตัดกับความมืดนวลๆ ในฉากนั้นได้อย่างสวยทุกทีไป ไหนจะฉากคฤหาสน์บลอสซั่มที่ได้อารมณ์กอธิคไม่น้อย
รีวิวซีรี่ส์ Riverdale Season 1 (2017) ริเวอร์เดล ปี 1 (ปลอดสปอยล์)
ซีรี่ส์ล่าสุดที่ทำเอาผมกับภรรยาติดหนึบ ดูทีเดียว 13 ตอนรวดครับ ส่วนหนึ่งคงเพราะแนวทางมันใช่ มันครบรสทั้งลึกลับซับซ้อน หักมุม ดราม่า อารมณ์ขันร้ายๆ และเต็มไปด้วยสีสัน (ทั้งในงานภาพและเนื้อหา)
รีวิว I Am the Pretty Thing That Lives in the House (2016)
หนังเรื่องนี้ บอกได้เลยครับว่าต้องมีคนตะโกนออกมาดังๆ ว่า “ชอบ” แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีคนบ่นออกมาดังๆ ว่า “น่าเบื่อ” (และมีแนวโน้มว่าคนที่บ่นว่าเบื่อ อาจมีในปริมาณที่มากกว่าครับ)
รีวิว The Similars (2015)
ออกตัวก่อนเลยครับว่าผมชอบหนังสไตล์ The Twilight Zone ที่ว่าด้วยเรื่องแปลกๆ เหนือโลก, ปริศนาชวนฉงน และการเดินเรื่องแบบคาดเดาได้ยาก และขณะเดียวกันผมก็ชอบหนังไซไฟขาวดำหลายๆ เรื่อง เพราะมันดูมีเสน่ห์เฉพาะตัวดีครับ
รีวิว Let’s Be Evil (2016)
เป็นหนังที่เปิดประเด็นตั้งต้นได้ดีครับ และงานเทคนิคหลายๆ อย่างก็จัดว่าเวิร์กอยู่ แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ได้โฟกัสอะไรๆ แบบชัดเจน (ว่าง่ายๆ คือออกจะเปะปะไปหน่อย) เลยทำให้ความน่าสนใจค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
รีวิว A Bundle of Trouble: An Aurora Teagarden Mystery (2017)
ดำเนินมาถึงภาคที่ 6 แล้วครับสำหรับเรื่องราวสืบสวนผสมโรแมนติกเบาสมองของ ออโรร่า ทีการ์เดน (Candace Cameron Bure) บรรณารักษ์สาวที่ควบตำแหน่งประธานชมรม Real Murder ที่เหล่านักสืบสมัครเล่นชอบมาจับกลุ่มไขคดีกัน
รีวิว XX (2017)
ชื่อบอกว่า X แต่หนังไม่ได้มีอะไร X อย่างที่คิดครับ (555) แต่คำว่า XX ในที่นี้หมายถึง “เพศหญิง” ครับ (แบบโครโมโซม XX อะไรประมาณนั้น) เพราะทั้งดารานำและผู้กำกับหนังเรื่องนี้ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น
รีวิว Site Unseen: An Emma Fielding Mystery (2017)
สาวเก่งยอดนักสืบคนใหม่ของ Hallmark ครับ เธอคือ เอมม่า ฟิลดิ้ง (Courtney Thorne-Smith) นักโบราณคดีสาวที่มีใจรักในการขุดเพื่อสำรวจประวัติศาสตร์ และมุ่งมั่นในการทำงานอยู่เสมอ ส่วนหนึ่งก็เพื่อตามรอยเท้าพ่อของเธอที่เป็นคนมีชื่อเสียงในวงการ
รีวิว A Cure for Wellness (2016) ชีพอมตะ
ถ้าพูดถึงหน้าหนังล่ะก็ เรื่องนี้เข้าทางผมอย่างแรงล่ะครับ ชอบนักล่ะหนังประเภทตัวเอกตามล่าปมปริศนาในสถานที่แปลกๆ แต่ยิ่งสืบยิ่งค้นกลับพบแต่ความลึกลับชวนสะพรึง (อารมณ์เหมือนอ่านนิยายเปิดไปทีละหน้า)