Tag "รีวิวหนัง"

รีวิว Hector and the Search for Happiness (2014) เฮคเตอร์ แย้มไว้ให้โลกยิ้ม

2314 0

Hector and the Search for Happiness เป็นหนังที่น่าสนใจดีครับ เรื่องราวว่าด้วยเฮคเตอร์ (Simon Pegg) จิตแพทย์หนุ่มที่น่าจะมีชีวิตอันแสนสุข เพราะงานที่ทำก็ประสบความสำเร็จ มีคนมาให้บำบัดไม่ขาดสาย อีกทั้งยังได้แต่งงานกับสาวสวยสุดเก่งอย่างคลาร่า (Rosamund Pike) อีกด้วย

รีวิว Still Alice (2015) อลิซ… ไม่ลืม

3327 5

ผมพบว่าระหว่างนั่งดู Still Alice ผมไม่สามารถละสายตาจากหนังได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

รีวิว Cooties (2015) คุณครูฮะ พวกผมเป็นซอมบี้

2783 0

Cooties เป็นหนังสยองปนตลกที่ทำออกมาในสไตล์ล้อและรำลึกถึงหนังสยองยุค 80 ครับ เรียกว่ารำลึกกันตั้งแต่โปสเตอร์กันเลยล่ะครับ

รีวิว SPL 2: A Time for Consequences (2015) โหดซัดโหด

2310 0

SPL 2: A Time for Consequences หรือ โหดซัดโหด ถือเป็นภาคต่อจาก SPL ภาคแรกที่เจิ้นจื่อตันแสดงไว้ครับ เพียงแต่เป็นภาคต่อในลักษณะที่ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก แต่เรื่องราวไม่ได้ต่อกัน ไม่ได้เกี่ยวกัน ดาราเก่าจากภาคแรกที่มาแสดงอย่าง เยิ่นต๊ะหัว และ อู๋จิง ก็ไม่ได้มารับบทเดิมแต่อย่างใด

รีวิว Bad Words (2013) ผู้ชายแสบได้ถ้วย

2490 0

Bad Words มีพล็อตที่น่าสนใจดีนะครับ เป็นเรื่องของ กาย ทริลบี้ (Jason Bateman แห่ง Horrible Bosses) หนุ่มวัย 40 ปีที่ลงแข่งสะกดคำระดับชาติท่ามกลางความงงของทุกคนที่พบเห็นและทราบเรื่อง เพราะปกติน่ะการแข่งสะกดคำก็จะมีแต่เด็กประถมลงแข่งเท่านั้น

รีวิว Lone Survivor (2013) ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด

2347 0

จำได้ว่า Lone Survivor เป็นหนังที่ผมผัดผ่อนในการดูนานมากๆ ไม่ใช่คิดว่าหนังไม่ดีนะครับ คือมันรู้น่ะว่าหนังดีแน่ แต่อารมณ์ช่วงนั้นยังไม่อยากดูหนังกดดันสักเท่าไร ครั้นพอดูแล้วก็ไม่กังขาในความดีครับ แล้วระหว่างดูก็รู้สึกกดดันสมดังคาดไว้จริงๆ

รีวิว Dead Rising: Watchtower (2015) เชื้อสยองแพร่พันธุ์ซอมบี้

2683 0

เนื่องจากผมไม่เคยสัมผัสเกมมา ก่อนจึงไม่อาจทราบได้ว่า Dead Rising: Watchtower ออกมาเหมือนหรือต่างกับเกมแค่ไหนน่ะนะครับ แต่เท่าที่พอจะบอกได้ก็คือ ถ้าใครชอบดูหนังซอมบี้ เรื่องนี้ก็ถือว่าดูเพลินๆ แก้ขัดได้ในระดับหนึ่ง

รีวิว Burying the Ex (2014) ซอมบี้ที่ (เคย) รัก

1948 0

Burying the Ex ถือเป็นหนังซอมบี้ตลกร้ายครับ ไม่เหมือน Warm Bodies ที่จะออกแนวซอมบี้โรแมนติก (และแน่นอนว่าผมชอบเรื่อง WB มากกว่าพอสมควร)

รีวิว No Escape (2015) หนีตายฝ่านรกข้ามแดน

2449 0

No Escape เรื่องนี้เข้ามาถ่ายทำในไทย แล้วก็เกือบจะไม่ได้ฉายครับ (เหตุผลหนึ่งคงเพราะฉากหลังว่าด้วยการประท้วงและจลาจล) แต่สุดท้ายก็ได้ฉาย โดยเนื้อหาเหตุการณ์ในเรื่องเกิดในประเทศนามสมมติ พยายามไม่พาดพิงอิงถึงใคร

รีวิว Maze Runner: The Scorch Trials (2015) เมซ รันเนอร์ สมรภูมิมอดไหม้

2459 0

สิ่งแรกที่ผมคิดหลังดู Maze Runner: The Scorch Trials จบคือ “รีบสร้างภาคต่อเลยสิครับ จะรออะไรกันอีกล่ะ” (5555)

รีวิว Insidious Chapter 3 (2015) วิญญาณตามติด 3

2218 0

เว้ากันซื่อๆ เลยว่าที่ตามดู Insidious: Chapter 3 ก็เพราะอยากเห็นป้า Lin Shaye กลับมารับบทหมอผีเอลลิสนี่แหละ

รีวิว Self/less (2015) สลับร่างล่าปริศนาชีวิตอมตะ

2730 0

พล็อตของ Self/less นั้นจะว่าคุ้นก็คุ้นนะครับ รู้สึกเหมือนได้ดูหนังแนวนี้บ่อยๆ แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้มีให้ดูบ่อยๆ นะ (เขียนไปก็งงไปครับ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะ)

รีวิว Effie Gray (2014) เอฟฟี่ เกรย์ ขีดชะตารักให้โลกรู้

1888 0

Effie Gray นำเอาเรื่องจริงอันอื้อฉาวที่โด่งดังในยุควิคตอเรียนมาบอกเล่าครับ เอฟฟี่ เกรย์ (Dakota Fanning) สาวน้อยที่แต่งงานกับจอห์น รัสกิน (Greg Wise) นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง ในตอนแรกเธอก็คิดว่าชีวิตคู่น่าจะสวยงามครับ แต่แล้วเมื่อเธอได้อยู่กินกับเขาจริงๆ มันกลับเต็มไปด้วยความเหินห่าง เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและอ้างว้าง จนนำมาสู่กรณีประวัติศาสตร์เมื่อเธอตัดสินใจยื่นขอต่อศาลให้การแต่งงานของเธอกับจอห์นเป็นโมฆะ

รีวิว The Longest Ride (2015) เดอะ ลองเกส ไรด์ ระยะทางพิสูจน์รัก

2630 1

ผมกลายเป็นขาประจำสำหรับหนังที่สร้างจากนิยายของ Nicholas Sparks แล้วล่ะครับ ตามดูทุกเรื่อง ส่วนหนึ่งก็คงเพราะชอบนิยายของพี่เขานั่นแหละ และส่วนใหญ่หนังที่ดัดแปลงจากงานของเขาก็ถือว่าออกมาดี

รีวิว Pitch Perfect 2 (2015) ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน 2

1759 0

ภาคแรกทำผมประทับใจไว้เยอะครับ ดังนั้นก่อนดู Pitch Perfect 2 ผมก็แอบคาดหวังเป็นธรรมดา ไหนจะโกยเงินถล่มทลายซะขนาดนั้น (แต่โดยส่วนตัวคิดว่าที่ภาคนี้ทำเงินอย่างใหญ่ ก็เพราะบุญเก่าที่ภาคแรกสะสมไว้ส่วนหนึ่ง) ภาคนี้เล่าถึงเหตุการณ์ 3 ปีให้หลัง เมื่อทีมเบลล่าเจอวิกฤตการณ์สุดอับอายแบบไม่คาดฝัน ทำให้อนาคตของทีมแขวนอยู่บนเส้นด้ายครับ ประมาณว่าถ้าทีมไม่สามารถกู้ชื่อได้ล่ะก็ อนาคตของชาวเบลล่าก็อาจดับกันไปเลย และการกู้ชื่อที่ทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้ได้ คือการคว้าชัยชนะในงานแข่งขันอะแคปเปลลาระดับโลก ซึ่งก็แน่นอนล่ะครับว่ามันไม่ง่าย ต้องอาศัยทั้งพลังกายและพลังใจอย่างมหาศาลทีเดียว ภาคนี้ก็ยังดูสนุกอยู่ครับ แต่ผมก็ยังชอบภาคแรกมากกว่าอยู่ดี และสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกระหว่างดูก็คือ “ดูแล้วได้อารมณ์เหมือนตอนดู Iron Man 2 เลยแฮะ” Iron Man 2 เป็นหนังที่ดูสนุกครับ แต่หนังมีรายละเอียดเยอะมาก และผลที่ได้คือพอมันรายละเอียดเยอะ หนังก็จับได้ไม่หมด บางอารมณ์ก็จับได้แค่ผิวๆ บางประเด็นก็พูดถึงแค่ผ่านๆ หนังเลยเต็มไปด้วยวัตถุดิบดีๆ แต่เอามาปรุงได้ไม่เต็มที่ สุดท้ายอารมณ์เลยกั๊กๆ