รีวิว Pacific Rim (2013) แปซิฟิค ริม สงครามอสูรเหล็ก
นี่คือหนังแอ็กชันไซไฟที่ดูแล้วถูกใจมากครับ เหมือนได้ย้อนไปเป็นเด็กอีกครั้ง สมัยยังสนุกกับพวกซีรี่ส์ขบวนการห้าสีที่ชอบเรียกหุ่นมาตีกับสัตว์ประหลาดในนาทีสุดท้าย (สมัยนั้นก็สงสัยว่าทำไมไม่เรียกหุ่นมากระทืบสัตว์ประหลาดตั้งแต่ตอนมันยังตัวเล็กๆ อยู่ล่ะ เมืองจะได้ไม่ต้องพัง 555)
รีวิวซีรี่ส์ Tamiou (2015)
เรื่องนี้ไม่คาดหวัง เห็นเขาว่าฮากันก็ลองดู ปรากฏว่าฮาจริงครับ
รีวิว Me and Earl and the Dying Girl (2015) ผมกับเกลอและเธอผู้เปลี่ยนหัวใจ
ถ้าใครโปรดปรานหนังชีวิตวัยรุ่นสไตล์ The Fault of Our Stars, Paper Towns, The Kings of Summer, The Way Way Back หรือ The Perks of Being a Wallflower ล่ะก็ ผมขอแนะนำเรื่องนี้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งครับ
รีวิว Odd Thomas (2013) อ๊อด โธมัส เห็นความตาย
จากนิยายของ Dean R. Koontz นักเขียนแนวเขย่าขวัญที่ผมโปรดอีกคนมาสู่จอภาพยนตร์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ผมกังขาพอสมควร เพราะกำกับโดย Stephen Sommers แห่ง The Mummy ทั้ง 2 ภาค และ Van Helsing แต่กลับไม่มีบริษัทจัดจำหน่ายไหนซื้อเอาเข้าโรง ทั้งที่ตัวหนังเสร็จมาเป็นปีแล้ว แอบสงสัยเหมือนกันว่าหนังมันจะเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือ
รีวิว The Mortal Instruments: City of Bones (2013) นักรบครึ่งเทวดา
การดูหนัง Percy Jackson มาแล้ว 2 ภาคทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งที่เรียกว่า “บทหนัง” มากขึ้นครับ เพราะถ้าบทสามารถเขียนโดยถอดเอาเสน่ห์จากนิยายมาใส่ได้แบบลงตัว แล้วก็สร้างเรื่องราวให้มีสมดุลทั้งด้านจินตนาการ ความสนุก และความลื่นไหล เท่านั้นเราก็จะได้หนังสนุกๆ มาประดับวงการอีกเรื่อง
รีวิว Pawn Sacrifice (2014) เดิมพันชาติรุกฆาตโลก
รู้สึกว่าระยะหลังๆ นี้ Tobey Maguire มักจะเล่นบทแนวคนเก็บกดอะไรสักอย่าง แล้วก็มีฉากให้แหกปากระเบิดอารมณ์อยู่บ่อยๆ ครับ (เพราะลอง Search ภาพหนังใหม่ๆ ของเขาทีไรต้องมีคนแคปภาพตอนพี่แกแหกปากมาลงทุกที)
รีวิวซีรี่ส์ Fight! Bookstore Girl (2015)
ดูจบเรียบร้อยครับสำหรับซีรี่ส์ว่าด้วยร้านหนังสือเรื่องนี้ ก็สรุปได้ตรงนี้เลยว่าดูสนุก ดูเพลิน และดูแล้วชอบมากทีเดียว
รีวิว Olympus Has Fallen (2013) ผ่าวิกฤติวินาศกรรมทำเนียบขาว
ก่อนภาค 2 จะมาในปีนี้ ขอรีวิวภาคแรกอุ่นเครื่องก่อนครับ นี่คือ “หนังประสานงาประจำปี” ที่เอาทำเนียบขาวมาถล่มเล่น ผมนั้นดู White House Down ก่อน ก็รู้สึกว่าหนังดูได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจเป็นพิเศษ โดยที่ Olympus นี่ดูทีหลัง แต่ก่อนดูก็แอบคิดในใจว่าเรื่องนี้คงสนุกกว่า เพราะอย่างน้อยดาราก็ไว้ใจได้ โทนก็ดูน่าจะสมจริง ปรากฏว่าดูเสร็จ สรุปได้ว่า “ดูได้เรื่อยๆ พอๆ กัน ไม่รู้สึกว่าเรื่องไหนเข้าเป้าเข้าวิน” WHD และ OHF นั้นจัดว่ามีดีคนละอย่างและด้อยกันคนละส่วนครับ WHD นั้นดูสนุกในฐานะหนังแอ็กชัน เอาสะใจเอามันส์ มีอารมณ์ขันเยอะ ความสมจริงไม่เน้น ประธานาธิบดีเกรียน แต่บทยังไม่เนียนเท่าไร ฯลฯ ส่วน OHF
รีวิว Warm Bodies (2013) ซอมบี้ที่รัก
โจทย์สำคัญที่หนังเรื่องนี้ต้องตีให้แตกคือ ทำให้คนเชื่อให้ได้ว่าซอมบี้ก็มีหัวใจ และความรักระหว่างซอมบี้กับมนุษย์จะเกิดขึ้นได้ และผลปรากฏว่า… หนังทำได้ครับ!
รีวิว House at the End of the Street (2012) บ้านช็อคสุดถนน
ซาร่าห์ และ เอลลิซ่า (Elisabeth Shue และ Jennifer Lawrence) แม่ลูกคู่หนึ่ง ย้ายบ้านมาอยู่ในชนบทห่างไกล แล้วพวกเธอก็พบว่าบ้านหลังใกล้ๆ นั้นเคยมีประวัติน่าสะพรึงอยู่ครับ นั่นคือ แครี่ แอน (Eva Link) ลูกสาวของคนในบ้านได้ลงมือสังหารพ่อแม่ตายทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงเด็กสาวคนนั้น และไรอัน (Max Thieriot) พี่ชายของเธอ
รีวิว Last Shift (2014)
ผมเชื่อว่าคอหนังสยองขวัญน่าจะมีความสุขกับหนังเรื่องนี้ครับ
รีวิว The Heat (2013) เดอะ ฮีท คู่แสบสาว มือปราบเดือดระอุ
ผมได้ยินกิตติศัพท์ของหนังเรื่องนี้มา 2 อย่าง อย่างแรก คือ หนังแซ่บสนุกสนานสะท้านทรวง อย่างที่ 2 คือ ฉบับพากย์ไทยของหนังปวดจิตสะท้านตับ หลังจากดูแล้วพบว่าจริงทุกประการ!
รีวิว Django Unchained (2012) จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน
Quentin Tarantino สร้าง Django Unchained ออกมาได้แสบแบบนิ่มๆ ครับ
รีวิว Final Girl (2015)
จริงๆ หนังน่าสนใจนะครับ เรื่องมันประมาณว่ามีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งชอบล่อผู้หญิงมาเชือด ทำเหมือนเกมน่ะครับ เอาไปปล่อยในป่าแล้วก็ให้หนี จากนั้นแต่ละคนก็ตามรอยไล่ล่า แล้วก็ลงมือเอาชีวิตเธอในตอนท้าย
รีวิว Goosebumps (2015) คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก
ตอน Goosebumps เปิดตัวที่อเมริกาในเดือนตุลาคม ผมก็แปลกใจที่หนังไม่ยักกะมีโปรแกรมเข้าฉายในไทยในตอนนั้นเลยทั้งที่หนังก็ ทำเงินในระดับที่น่าพอใจไม่น้อยและหนังน่าจะขายได้ในบ้านเรา เพราะ Effect มาเต็มและแนวหนังเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวซะขนาดนั้น