รีวิว This Is Where I Leave You (2014)
1733 0This Is Where I Leave You คือผลงานกำกับของ Shawn Levy ที่เขาทำก่อน Night at the Museum: Secret of the Tomb ครับ
รีวิว Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day (2014) วันอลวนของครอบครัวอลเวง
2019 0Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day ดัดแปลงจากหนังสือสำหรับเด็กที่ได้รับความนิยมมาหลายสิบปีครับ (ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1972) เนื้อเรื่องว่าด้วยหนุ่มน้อย อเล็กซานเดอร์ (Ed Oxenbould) ที่ชีวิตของเขาเต็มด้วยคำว่า “ซวยซ้ำซ้อน” และ “ซวยซ้ำซาก” แต่พ่อแม่พี่น้องเขากลับไม่มีใครเข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
รีวิว The A-Team (2010) เอ-ทีม หน่วยพิฆาตเดนตาย
1900 0The A-Team รีเมคจากซีรี่ส์เก่าที่ฉายระหว่างปี 1983 – 1987 ครับ กับเรื่องราวของหน่วยทหารที่พร้อมปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายทุกรูปแบบ โดยสไตล์ก็คือ Mission: Impossible ภาคทหารลุยระเบิดนั่นเอง
รีวิว The Wolverine (2013) เดอะ วูล์ฟเวอรีน
2056 0The Wolverine อาจเป็นหนังชุด X-Men ภาคที่มีคนชอบพอๆ กับที่มีคนเฉยน่ะนะครับ เพราะปริมาณแอ็กชันไม่เยอะ ลีลาแฟนตาซีสไตล์มิวแตนท์ตีกันก็ไม่มาก เนื้อหาก็ไม่ถึงกับสดใหม่อะไรนัก
รีวิว ตุ๊กแกรักแป้งมาก (2014) Chiang Khan Story
1824 0ในฐานะที่ตามดูหนังพี่ต้อม ยุทธเลิศมาสิบกว่าปี ความรู้สึกหนึ่งที่เกิดเสมอยามดูหนังของพี่เขาคือ หนังมักจะมีจุดโดนๆ ในช่วงต้น พอมาถึงกลางเรื่องก็มักจะมีจุดที่ทำให้รู้สึกแย้งในใจเล็กๆ หรือรู้สึกว่า “มันไม่ใช่แฮะ”
รีวิว Bad Neighbours (2014) เพื่อนบ้านมหา(บรร)ลัย
2270 0Bad Neighbours อีกหนึ่งหนังฮาม้ามืดของปีก่อน ดูแล้วก็สนุกดีครับ ฮาได้เรื่อยๆ เพลินใช้ได้ทีเดียว
รีวิว What If (2014) รักได้มั้ย ถ้าหัวใจแอบรัก
2009 0What If ชวนให้นึกถึงหนังแนวเพื่อนแอบรักเพื่อนอย่าง When Harry Met Sally ซึ่งจุดที่จะทำให้หนังสนุกก็อยู่ที่ว่า “บทสนทนาระหว่างพระเอกนางเอกจะออกรสอร่อยไหม“
รีวิว Daybreakers (2009) วันแวมไพร์ครองโลก
381 0เป็นหนังแวมไพร์ที่ไม่ธรรมดา มาพร้อมไอเดีย แง่คิด และจัดว่ามีความสดพอตัว เหตุในหนังนั้นเกิดในโลกอนาคตครับ เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกกลายเป็นแวมไพร์กันหมด และเมื่อปฏิทินมาถึงปี 2019 ปรากฏว่าเลือดเกิดขาดแคลนเพราะมนุษย์ก็โดนล่าไปเกือบหมด ทำให้ต้องมีการหาทางผลิตเลือดทดแทน และเอ็ดเวิร์ด ดัลตัน (Ethan Hawke) ก็คือหัวหน้าทีมวิจัยที่กำลังค้นคว้าอยู่ แต่แล้วในเวลาต่อมาเขาก็ได้พบกับ ไลโอเนล คอร์แม็ค (Willem Dafoe) มนุษย์ที่มาพร้อมวิธีการแก้พิษแวมไพร์ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีครับ เพราะคนจะได้เลิกกินเลือดแล้วกลับไปเป็นคนธรรมดา ไม่ต้องมาฆ่ากันอีกต่อไป เอ็ดเวิร์ดก็เลยตัดสินใจร่วมมือกับเขาและมนุษย์ที่เหลืออยู่ เพื่อช่วยให้มนุษย์กลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิม แต่ก็แน่นอนว่าเขาไม่สามารถดำเนินแผนได้ดั่งใจนัก เพราะยังมีแวมไพร์อีกมากที่ไม่อยากกลับไปเป็นคน ประมาณว่าแวมไพร์น่ะมีพลังสารพัด ดีกว่ากลับไปเป็นคนตั้งเยอะ หรือไม่บางคนก็กลายเป็นแวมไพร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งกายและใจไปแล้ว ดังนั้นการถอนพิษแวมไพร์ก็เท่ากับเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสายตาของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเอ็ดเวิร์ดเลยต้องเจอกับการไล่ล่าจนได้ อย่างแรกที่เข้าท่ามากๆ ก็คือโทนเรื่องกับการจัดแสงที่นับว่าดีทีเดียว เพราะทั้งโลกเป็นดินแดนที่มีแต่แวมไพร์อาศัย รูปแบบตึกรามบ้านช่องและในเมืองเลยออกแนวมืดๆ ไม่ค่อยมีแสงส่องถึง ซึ่งทำให้อารมณ์หนังดูหม่นไปในตัว การเดินเรื่องก็ดูเพลินใช้ได้