ตอนแรกไม่คาดหวังอะไรเลยกับเรื่องนี้ครับ เพราะดูจากตัวอย่างหรือจากข้อมูลอะไรแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะมีอะไรแปลกหรือน่าสนใจ แต่ครั้นพอดูแล้วต้องบอกว่าเกินความคาดหมายจริงๆ… หมายถึงนิ่งเกินความคาดหมายน่ะครับ

หนังดัดแปลงจากซีรีส์การ์ตูนที่ได้รับความนิยมไม่น้อย (แต่ผมก็ยังไม่เคยได้ชมครับ อันนี้ออกตัวไว้ก่อน) สำหรับฉบับหนังก็มาในพล็อตที่ออกจะพิมพ์นิยมอยู่เหมือนกัน นั่นคือตัวเอกนามว่า แม็กซ์ (Ben Winchell) ที่อาศัยอยู่กับแม่ หลังจากที่เขาสูญเสียพ่อไป

ช่วงต้นๆ หนังก็ปูพื้นให้เรารู้จักเขา เมืองที่เขาอยู่ โรงเรียนที่เขาเรียน เพื่อนที่เขามี ฯลฯ ครั้นพอเดินเรื่องไปสักพักก็เข้าสู่โหมดซูเปอร์ฮีโร้ครับ เมื่อมีหุ่นจิ๋วนามว่าสตีลมาหาเขา แล้วก็ทำให้เขามีพลังเหนือมนุษย์ขึ้นมา จากนั้นพวกแม็กซ์กับสตีลก็ร่วมมือกันสู้กับผู้ร้าย แล้วก็ไขปริศนาการจากไปของพ่อแม็กซ์

หนังเหมือนเอา Twilight (วัยรุ่นอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ติดจะน่าเบื่อนิดๆ แล้วเจอกับเรื่องไม่ธรรมดา ชนิดที่เปลี่ยนชีวิตเลย) มาผสมกับ Spider-Man น่ะครับ แต่การเดินเรื่องค่อนข้างนิ่ง โดยเฉพาะตอนต้นนี่นิ่งเยอะเลย

ดาราในเรื่องไม่ดึงดูดเท่าไรครับ การแสดงไม่เด่น กระทั่งดารารุ่นใหญ่อย่าง Maria Bello และ Andy Garcia ก็ยังดูธรรมดาในหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็รู้สึกเลยว่ามีผลเหมือนกันครับเมื่อนักแสดงไม่มีอะไรดึงดูดเป็นพิเศษ ส่วนที่เหลือก็พลอยธรรมดาตาม

ว่ากันว่าตอนแรกมีการทาบทามให้ Taylor Lautner (หมาป่าแห่ง Twilight) มาแสดงเป็นแม็กซ์ครับ แต่เขาก็บอกปัดไปเพราะสนใจบทจากหนังเรื่องอื่นมากกว่า และก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หนังสร้างช้าจากกำหนดเดิม (เพราะโปรเจคท์นี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 แล้วครับ)

การเดินเรื่องตอนต้นก็เรื่อยๆ ครับ มาน่าสนใจนิดนึงตอนแม็กซ์มาเจอกับสตีล แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนหนึ่งคงเพราะหนังสเกลไม่ใหญ่น่ะครับ ไม่ว่าจะเพราะเรื่องมาเกิดในเมืองเล็ก มันเลยไม่มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้น

หรือพลังของแม็กซ์ สตีล เองที่จริงๆ ถ้าจะทำให้ใหญ่ก็คงได้น่ะครับ แต่ก็เพราะนี่เป็นตอนปฐมบท พลังของแม็กซ์ก็เลยไม่ได้มีความหวือหวาอะไรมาก ฉากต่อสู้ต่างๆ หรือฉากผจญภัยอะไรมันก็เลยดูเรื่อยๆ ไม่ได้ตื่นตาอะไรนัก

แต่หนังก็มีฉากที่ผมชอบนะ อย่างปมพ่อของแม็กซ์น่ะครับ ฉากที่เฉลยปมที่ว่า เอาเข้าจริงเป็นฉากที่มีความหมายนะ เป็นฉากที่หากปรุงดีๆ ล่ะก็ น่าจะสร้างความซึ้งหรือสะเทือนใจได้ไม่น้อยหน้าฉากลุงเบนแห่ง Spider-Man เลยล่ะ ซึ่งผลที่ได้ก็โอเคครับ เป็นฉากที่ดีที่สุดของหนังก็ว่าได้

ดูก็รู้แต่แรกเลยครับว่าหนังต้องทิ้งเชื้อทำตอนต่อแน่นอน แต่จากทุนสร้างประมาณ $20 ล้าน แล้วหนังทำรายได้จากทั่วโลกไปไม่ถึง $5 ล้าน แบบนี้เรื่องภาคต่อคงไม่ต้องพูดถึงครับ แต่ก็คงไม่ถึงขั้นขาดทุน เพราะตอนออกแผ่นหรือฉายทีวีก็น่าจะได้ทุนคืนอยู่

ระหว่างดูนั้นผมคิดถึง Dragonball Evolution ครับ ที่คิดถึงก็เพราะเรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันมีความคล้ายกันนะ สร้างจากการ์ตูนทีวี ตัวเอกคือเด็กหนุ่มที่มาพร้อมพลัง และจริงๆ มันสามารถใส่ลูกเล่นหรืออะไรมันส์ๆ ลงมาได้หลายอย่าง แต่หนังกลับไปไม่ถึงจุดสนุก

อดคิดไม่ได้น่ะครับว่าถ้าหนังเขียนบทเอาให้มันมีรายละเอียดมากกว่านี้ ลงทุนเยอะกว่านี้ ใส่ลูกเล่นมากกว่านี้ มันคงน่าสนใจขึ้น แต่ก็เข้าใจครับว่าบางทีทำหนังก็โดนกดทุน โดนจำกัดหลายๆ อย่าง มันก็เลยได้เท่าที่ได้ (คงนานทีปีหนน่ะถึงจะมีหนังอย่าง Deadpool ที่ทุนไม่ถึง $60 ล้าน แต่ก็ออกมาดูเพลินมากมายได้)

เอาเป็นว่าอย่าคาดหวังก่อนชมครับ หรืออาจต้องลดความคาดหวังจากที่ไม่คาดหวังอยู่แล้วลงไปอีก (ก็ไม่รู้จะลดยังไงเหมือนกัน 555) แต่ก็นั่นล่ะครับ ไม่แน่ท่านดูแล้วอาจชอบก็ได้ครับ
คะแนนความชอบ 5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน