หนังเรื่องนี้ดูเพลินกว่าที่คิดครับ มันอาจไม่ได้สุดยอดหรือห้ามพลาดอะไร แต่จัดว่าดูสนุก ครบทั้งเบาสมองและแอ็กชันผจญภัย ถ้าไม่คิดมากก็น่าจะพอใจอยู่ไม่น้อย

เรื่องของเด็กหนุ่มชื่อ ทริปป์ (Lucas Till) ที่มีเหตุให้ได้ไปเจอกับสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์จากใต้ดิน ตอนแรกทริปป์ก็ตกใจตามสูตรล่ะครับ มีฉากเหวอๆ ฮาๆ ตามแบบฉบับสูตรหนัง “คนธรรมดาเจอสัตว์ประหลาดแล้วตกใจ”

แต่พอทั้งคนและสัตว์ประหลาดสื่อถึงกันได้ พวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนและร่วมกันผจญภัยครับ ประมาณว่ามีบริษัทน้ำมันหมายจะหาประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้ เลยทำให้ทริปป์ต้องหาทางช่วยเหล่าเพื่อนต่างสายพันธุ์นี้ให้หนีไปได้โดยปลอดภัย

เป็นหนังที่ดูแล้วเดาได้ตลอดครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่มันก็ดูเพลินในแบบของมัน มีฮา มีแอ็กชัน และอาจจะถือว่ามีลุ้นบ้างสำหรับคอหนังรุ่นเยาว์ โดยรวมแล้วมันเพลินครับ อาจเพราะผมไม่ได้คาดหวังด้วยเลยโอเคกับมัน

สิ่งที่ผมชอบมากอย่างหนึ่งคือหนังไม่ได้ทำออกมาในโทนเบาเกิน มันยังดูติดดินในระดับหนึ่ง ดูมีความจริงจังแทรกตัวอยู่ ไม่ได้ดูเป็นการ์ตูนหรือติงต๊องหลุดโลกจนเกินไป มันเลยเป็นหนังที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ก็น่าจะดูเพลิน

และผมชอบที่ตัวละครในเรื่องไม่ได้งี่เง่าหรือสุดโต่งแบบที่หนังแนวนี้ชอบทำ คือนึกออกไหมครับว่าหนังผจญภัยหรือหนังครอบครัวแฟนตาซีแบบนี้ชอบทำให้ตัวละครในเรื่องมันดูการ์ตูนเกินเหตุ เช่นใครดีก็ทำท่าเป็นคนดีตลอด จนบางครั้งออกแนวโง่โดนคนร้ายหลอกแบบง่ายๆ

ขณะเดียวกันก็ชอบทำให้ตัวร้ายดูร้ายแบบจงใจ ร้ายจนน่าขำ ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตอะไรประมาณนั้น ไหนจะฉากแบบตัวร้ายโดนพระเอกแกล้งแบบต๊องๆ ซึ่งผมว่ามันลดทอนความสนุกของหนังไปไม่น้อย (มันดูน่าหงุดหงิดแทนน่ะครับ)

แต่กับเรื่องนี้แล้ว ตัวละครถือว่าพอดีครับ พระเอกนางเอกหรือเพื่อนพระเอกดูพอเหมาะ คืออาจจะมีอารมณ์ฮาหรืออารมณ์เหวอบ้างล่ะครับ แต่มันไม่หลุดและไม่ติงต๊อง และตัวละครในเรื่องก็ไม่ได้ขาวเว่อร์หรือดำล้วน มันมีมุมดีและมุมไม่ดีผสมๆ กัน อาจจะยกเว้น Rob Lowe ที่ถูกกำหนดให้เป็นตัวร้าย 100% แต่ก็ยังดีที่พี่แกไม่พยายามทำท่าหลุดโลกน่ะครับ

Till ไปได้ดีกับบทแบบนี้ครับ เป็นคนหนุ่มมีไฟแต่ความมั่นใจอาจไม่เยอะ ต้องรออะไรมาผลักถึงจะกล้าคิดกล้าทำ และผมยังได้เจอ Danny Glover อีกด้วย ดีใจครับที่ได้เห็นลุงเขาในหนังทุนสูงแบบนี้บ้าง ดาราสมทบรายอื่นอย่าง Barry Pepper และ Thomas Lennon ก็เล่นดี อีกทั้งยังมีวาระที่น่าจดจำด้วยครับ

แต่ก็แอบสงสารครับเพราะหนังทุน $125 ล้านเรื่องนี้ทำเงินทั่วโลกไปแค่ $64 ล้านเท่านั้น เจ๊งสนิทครับ ก็พอเข้าใจแหละว่าหน้าหนังมันอาจไม่ทำเงินขนาดนั้น เพราะมันไม่ได้มีอะไรใหม่ และผลที่ได้ก็ออกมาในระดับเพลินๆ ก็คงจะยากหน่อยที่จะเรียกลูกค้าได้

เอาเป็นว่าหนังทำออกมาเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวครับ ดูได้สบายๆ สนุกไปกับเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีพิษภัย คนดีเอาชนะคนไม่ดีได้ ลงสูตรหนังแนวนี้แบบเต็มๆ ถ้าใครชอบแนวนี้ก็จัดไปได้เลยครับ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++ ถัดจากนี้มีสปอยล์ครับ ไม่อยากทราบข้ามได้ +++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมชอบตอนจบนะ มันจบแบบทริปป์ก็กลับไปใช้ชีวิตของตนเหมือนเดิม เจ้าพวกมอนสเตอร์ก็กลับลงใต้ดินไปเหมือนเดิม ต่างคนต่างก็ใช้ชีวิตต่อไปตามวิถี สังคม และระบบนิเวศน์ของตน ไม่ได้จบแบบสูตรสำเร็จประเภท “แล้วทั้งคนและมอนสเตอร์ก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”

ซึ่งการจบแบบที่หนังเป็นมันดู Real ดีน่ะครับ มันเหมือนเวลาที่เรากับเพื่อนได้ผจญภัยร่วมกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่พอถึงจุดหนึ่งต่างคนต่างก็ต้องไปใช้ชีวิตของตนต่อ เราจะไม่ได้อยู่ใกล้กันหรือผจญภัยต่อกันไปแบบไม่รู้จบหรอก เพราะชีวิตมันไม่เหมือนในหนังน่ะครับ

ซึ่งตอนจบสไตล์นี้นอกจากให้อารมณ์ Real เล็กๆ แล้ว ยังให้อารมณ์ “โหยหา” นิดๆ ประมาณว่าเรื่องราวที่เราเพิ่งดูไปนั้น ในที่สุดก็กลายเป็นความทรงจำที่จบลง ไม่ได้อยู่ยืนยง Forever อะไรแบบนั้น… การที่หนังจบแบบนี้มันมีผลต่อความรู้สึกสำหรับผมเสมอครับ