รีวิว The Mummy (2017) เดอะ มัมมี่ (มีสปอยล์ ตอนจบ)

รีวิว The Mummy (2017) เดอะ มัมมี่ (มีสปอยล์ ตอนจบ)

(สิ่งที่ผมเขียนนี้มีสปอยล์แน่นอนครับ คงต้องขอสปอยล์เพื่อความครบเครื่องในการเขียนถึงครับ)

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

พูดแล้วก็นึกถึงจักรวาลของ DC ที่แม้จะโดนค่อนขอดเรื่องบท แต่ถ้าพูดถึงโทนแล้วล่ะก็ โทนจักรวาลฮีโร่ของ DC ได้รับการเซ็ทอย่างประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ Man of Steel แล้วครับ ทั้งสีของภาพ โทนของโลก รวมถึง “มวลอารมณ์ของโลกที่มีฮีโร่” มันเจืออยู่ในแต่ละอณูของหนัง เลยทำให้แม้บทของหนัง DC หลายๆ เรื่องจะไม่เข้าเป้า แต่ก็ได้ “โทนถึงๆ” มาช่วยเอาไว้ได้เยอะอยู่

เมื่อเอ่ยถึงบทหนังแล้ว ในส่วนของการผูกตำนาน ผสานเรื่องเล่าของหนังก็ไม่มีอะไรเด่นเช่นกันครับ ตำนานมันดูแห้งๆ แล้งๆ ไม่ได้มีพลังถึงขนาดที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น ทั้งที่จริงๆ แล้วตำนานในภาคนี้ โดยเฉพาะเรื่องของ “อำนาจมืด” ที่อาห์มาเนตเข้าไปข้องเกี่ยว มันคือหนึ่งในตำนานอมตะมากๆ ระดับ Top ของโลกปีศาจนะครับ… เรื่องของเซธ/ลูซิเฟอร์น่ะครับ ใหญ่ไม่ใหญ่คิดดู แต่การนำเสนอช่วงเผยปมนี้กลับออกมานิ่งๆ งั้นๆ

พอพูดถึงตรงนี้ก็นึกถึงดนตรีขึ้นมาอีกเรื่องครับ ดนตรีไม่เด่นอีกเหมือนกัน ตัวอย่างเช่นฉากที่ผมพูดถึงเมื่อกี้น่ะครับ ฉากเผยปมว่ากำลังจะมี “ลูซิเฟอร์” เข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องราว ถ้าดนตรีมันบิ้วๆ ถ้ามุมกล้องมันส่งๆ และการเล่าเรื่องมันโดนๆ นะ ผมว่ามันจะเป็นฉากที่ทรงพลังได้เลยล่ะครับ แต่นี่ทั้งการเล่า ทั้งดนตรี ทั้งจังหวะมันไม่ส่งเลย (ตอนนี้ผมกำลังนึกถึง The Mummy Returns อยู่น่ะครับ ดนตรีตอนเร้าๆ มันส์ๆ ลุ้นๆ นี่ยังติดหูอยู่เลย)

แต่สิ่งที่ตะหงิดในใจผมที่สุดก็คงเป็น Tom Cruise น่ะครับ โอเค คือผมเข้าใจในแง่คาแรคเตอร์ “ปลายทาง” ของเขานะ อันนี้ใครดูแล้วคงรู้ว่าสุดท้ายแล้วร่างของเขาจะมี “ลูซิเฟอร์” ลงประทับ ซึ่ง Cruise ก็ดูเหมาะกับการเป็นลูซิเฟอร์อยู่ แต่หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ความอร่อยของหนังลดลง ก็คือคาแรคเตอร์ระหว่างทางของเขานี่แหละ

คือตัวนิค มอร์ตันเนี่ย จริงๆ เขาจะเป็นคนกะล่อน ตลบแตลง ไม่รู้จักยั้งคิด เบ๊อะๆ หน่อย เห็นแก่เงิน ฯลฯ คือผมพอเข้าใจในแง่ของบทน่ะนะครับ จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นการวางที่เหมาะมาก เพราะพอนึกภาพตามแล้วมันน่าสนใจนะ มันคือมุกแบบ Pretty Woman – The Princess Diaries ที่ตอนต้นตัวเอกไม่เจ๋งเท่าไร แต่ตอนหลังตัวเอกจะกลายเป็นคนเจ๋งมากๆ จนคนทั้งโลกต้องหยุดมอง อะไรประมาณนั้น

แต่ปัญหาคือ Cruise ดูไม่เหมาะบบทเบ๊อะๆ แบบนี้น่ะครับ ส่วนหนึ่งก็ด้วยอายุ และเราก็ติดภาพที่แกเป็นอีธาน ฮันท์มาตั้งหลายสิบปี มันเลยดูขัดๆ… นี่ผมแอบคิดน่ะนะครับ ถ้าทีมงานหาดาราที่หนุ่มกว่า (อายุสัก 35 – 40) แล้วก็ให้เขาเล่นแบบเบ๊อะๆ ไปตามเรื่อง โดยที่อาจจะไม่ต้องแต่งหน้าหรือแต่งผมให้หล่ออะไรมากก็ได้

แล้วพอถึงตอนท้าย พอลูซิเฟอร์สิงร่าง พอถึงฉากตอนจบก็ให้เขาเปลี่ยนมาดไปเป็นอีกคนที่เท่ห์ สง่า ฉลาด ฯลฯ อาจเปลี่ยนการแต่งกายอีกสักหน่อยให้มันดูหล่อคมมากขึ้น ผมว่าถ้าบริหารจัดการมุกด้วยวิธีแบบนี้ล่ะก็ ดาราคนที่เล่นนี่ก็จะมีโอกาสเกิดได้เลยนะ (และอาจกลายเป็นอาวุธลับสำคัญของหนังอีกด้วย)

อีกอย่างที่รู้สึกคือดาราในเรื่องไม่ดึงดูดพอครับ โอเค เรามี Cruise และ Russell Crowe แต่ปกติหนังระดับนี้จะต้องสรรหาดาราน้อยใหญ่มาร่วมจอเพื่อเพิ่มพลัง แต่กลายเป็นว่าดาราแวดล้อมในเรื่องก็ไม่มีใครเด่นพอน่ะครับ ซึ่งจุดนี้ทำให้ตระหนักถึงพลังของดาราสมทบในจอเลยนะ ว่าพอหนังปราศจากดาราสมทบเล็กๆ (แต่สำคัญ) ก็ทำให้สีสันของหนังหายไปเยอะเหมือนกัน

แล้วพอนึกถึงจุดนี้ก็ย้อนนึกไปถึงหนังหลายๆ เรื่องที่มีดาราสมทบน้อยใหญ่มาขึ้นจอ (อย่างหนังของ Marvel) คือการมาของพวกเขามันไม่ใช่แค่เพิ่มความน่าสนใจให้หนังเท่านั้นนะครับ แต่การแสดงของพวกเขา-การที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครหลัก ก็ทำให้ตัวละครหลักได้เพิ่มมิติของคาแรคเตอร์ตนเองในทางหนึ่ง และยังทำให้โลกในหนังมันดูมี “อะไร” น่ะครับ ดูมันกว้างและใหญ่ ในขณะที่หนังเรื่องนี้พอตัวละครมีไม่มาก มันเลยดู “ไซส์มินิ” ขึ้นมาในความรู้สึกน่ะครับ

โดยรวมแล้วองค์ประกอบหลายอย่างของหนังมันยังไม่ถึงน่ะครับ คนที่ต้องรับไปแบบเนื้อๆ ก็คงเป็น Alex Kurtzman ที่รับหน้าที่กำกับ ซึ่งผมว่าเขาเป็นคนเขียนบทที่มีฝีมือครับ แต่สำหรับงานกำกับแล้ว ก็คงต้องจับตากันในเรื่องต่อไป (ถ้ามี) จริงๆ เขาเคยทำ People Like Us (หนังดราม่าขนาดกลางๆ) ได้อย่างน่าพอใจครับ แต่พอมาเจองานสเกลใหญ่แบบนี้ ก็อาจมีบ้างที่ยังคุมได้ไม่ทั่วถึง (จริงๆ คือหลายอย่างเลยครับที่เอาไม่อยู่น่ะ)

ผมอาจจะออกแนวติซะเยอะน่ะนะครับ แต่ผมติอย่างจริงใจ เพราะจริงๆ ผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับหนังอยู่แล้ว และจริงๆ ผมอยากให้ Universe นี้เกิดนะ เพราะผมชอบตัวละคร Monster ของ Universal มาแต่ไหนแต่ไร (ถึงขนาดไล่ล่าซื้อ Blu-Ray หนังสัตว์ประหลาดตั้งแต่ยุค 30 มาเก็บ) และผมยังชอบหนัง Van Helsing ฉบับ Hugh Jackman ด้วย ผมว่าเรื่องปีศาจในตำนานเหล่านี้มีเสน่ห์มากมายครับ และมีแง่มุมให้จับมาเล่นอีกเยอะ

แต่สำหรับเรื่องนี้ เสน่ห์ไม่มากเท่าไรครับ ก็อย่างที่บอกไป แอ็กชันไม่เด่น, ดนตรีไม่เร้า, ฉาก-บรรยากาศ-โทนยังไม่ถึงเครื่อง, เนื้อเรื่องยังเล่าได้ไม่จัดพอ, ตำนานยังไม่ขลังพอที่จะทอถักจักรวาล Dark Universe ได้, ดาราในเรื่องที่ดูเข้าท่าจริงๆ คือ Crowe ครับ ในขณะที่ Cruise ดูไม่เข้ากับคาแรคเตอร์ของนิค (แต่เหมาะกับคาแรคเตอร์ตอนโดนลูซิเฟอร์ลงประทับ) และ Wallis ก็สวยดี เพียงแต่การประกบกับ Cruise ดูจะไม่ส่งกันเท่าไร (คงเพราะ Cruise อายุ 55 แต่ Wallis อายุ 33 น่ะครับ)

กระนั้นผมก็ยังอยากให้ Universe นี้เกิดครับ… เอาจริงๆ ไหมครับ… ผมอยากให้เกิดทุก Universe นั่นแหละ เพราะนั่นจะแปลว่าผมจะมีหนังดูเพิ่มอีกเยอะเลย ก็ได้แต่หวังว่ารายได้จะพอให้ Universe นี้จุดติดน่ะครับ และหวังว่า The Mummy นี้จะเป็นบทเรียนให้กับหนังเรื่องต่อๆ ไปใน Universe นี้

อีกอย่างคือ ผมอยากจะบอกว่า ผมชอบ Dracula Untold มากกว่าครับ… อย่างน้อยทิศทางเรื่องมันชัด และโทนเรื่องก็ได้รสชาติมากกว่า ไหนจะฉากและรายละเอียดที่ดูมันใหญ่กว่า (เรื่องนั้นทุน $70 ล้าน ในขณะที่ The Mummy นี่ $125 ล้านครับ) และทีสำคัญคือ Luke Evans เหมาะกับบทแดร็กคูล่าอย่างยิ่ง จนแม้หนังจะไม่ได้ถึงขั้นดีมาก แต่ด้วยความเหมาะของการ Casting ทำให้หนังดูดีขึ้นมาเยอะพอสมควร
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว The Interview (2014) ดิ อินเทอร์วิว บ่มแผนบ้าไปฆ่าผู้นำ

2276 0

The Interview หนังฮาที่กลายเป็นกรณีพิพาทใหญ่โตไปเมื่อปีกลาย กับพล็อตโคตรหาเรื่องใส่ตัวว่าด้วยพิธีกรจอมเจาะใจ เดฟ สกายลาร์ก (James Franco) กับโปรดิวเซอร์คู่หู แอรอน ราพาพอร์ท (Seth Rogen) เดินทางไปเกาหลีเหนือเพื่อสัมภาษณผู้นำคนใหม่อย่างคิมจองอึน โดยที่ทางการก็มีแผนว่าจะใช้พวกเขานี่แหละช่วยลอบสังหารคิมจองอึนซะเลย ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Manchester by the Sea (2016) แค่… ใครสักคน

1663 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถือเป็นหนังว่าด้วย “คนชีวิตชำรุด” ที่เรียบง่าย แต่ได้ใจอย่างยิ่ง มันอิ่มแบบพอดี รสชาติไม่จัดจ้าน ปราศจากความหวือหวา แต่ดูแล้วมันอิน มันสัมผัสได้ถึงห้วงอารมณ์ช้ำๆ จนบางขณะเราก็รู้สึกช้ำตามตัวละครไปด้วย ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิวซีรี่ส์ Fight! Bookstore Girl (2015)

2078 0

ดูจบเรียบร้อยครับสำหรับซีรี่ส์ว่าด้วยร้านหนังสือเรื่องนี้ ก็สรุปได้ตรงนี้เลยว่าดูสนุก ดูเพลิน และดูแล้วชอบมากทีเดียว ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด