รีวิว Let’s Be Evil (2016)
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
เป็นหนังที่เปิดประเด็นตั้งต้นได้ดีครับ และงานเทคนิคหลายๆ อย่างก็จัดว่าเวิร์กอยู่ แต่ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ได้โฟกัสอะไรๆ แบบชัดเจน (ว่าง่ายๆ คือออกจะเปะปะไปหน่อย) เลยทำให้ความน่าสนใจค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
หนังเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาครับ ประมาณว่าสังคมอเมริกัน (ในหนัง) ตระหนักว่า ณ ตอนนี้คือภาวะวิกฤตทางการศึกษา ในขณะที่หลายประเทศกำลังก้าวหน้าในการพัฒนาศักยภาพเด็ก แต่เด็กในเมืองลุงแซมกลับไม่สามารถไปแข่งกับเขาได้
และที่ซ้ำร้ายหนักคือ นอกจากเด็กจะไม่สามารถเป็นอนาคตของชาติได้แล้ว พวกเขายังทำตัวยเป็นภาระ สูบทรัพยากรธรรมชาติไปวันๆ จนทำให้คนบางกลุ่มลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้เด็กสามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้ “แบบก้าวกระโดด”
แล้วหนังก็แนะนำให้เรารู้จักกับ เจนนี่ (Elizabeth Morris) สาวน้อยที่ได้รับเลือกให้เข้าโปรแกรมลับที่เธอเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ รู้แค่ว่าทำแล้วได้เงินดี เธอก็เลยยินดีรับทำ
แล้วเจนนี่ก็ได้เจอกับดาร์บี้ (Elliot James Langridge) และ ทิกส์ (Kara Tointon) อีก 2 อาสาสมัครที่ได้รับเลือกเข้าโปรแกรมเหมือนกัน แล้วพวกเขาก็ต้องสวมแว่น VR เพื่อเริ่มต้นโปรแกรมที่ว่านี้
หลักๆ แล้วก็เหมือนว่าพวกเขาต้องดูแลเด็กพิเศษที่ถูกนำมารวมกันไว้ในฐานลับใต้ดินครับ เด็กพวกนี้ได้รับการฝึกให้เรียนรู้แบบเข้มข้น มีการยัดความรู้ใส่สมองพวกเขาด้วยสารพัดวิธี แต่แน่นอนว่าเด็กเหล่านี้ย่อมมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนเด็กทั่วไป… จนบางทีก็น่ากลัว
แต่ความน่ากลัวยังไม่จบครับ เพราะจริงๆ การอยู่ใต้ดินนั่นก็ดูน่ากลัวไม่แพ้กัน พวกตัวเอกเริ่มรู้สึกอึดอัดและระแวงสงสัยว่าที่แห่งนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่ และพวกเขาต้องสวมแว่นตลอดเวลา เพราะถ้าถอดเมื่อไรพวกเขาจะมองอะไรไม่เห็นเลย… ตกลงพวกเขากำลังทำโปรแกรมลับประเภทไหนกันแน่?
อย่างที่บอกครับว่าจุดตั้งต้นมันน่าสนใจ และงานด้านภาพมันใช้ได้เลยครับ หนังใช้สีมาเสริมความน่าสนใจให้หนังได้อย่างดี ตรงฐานลับใต้ดินน่ะครับ มันเป็นทางแคบๆ ที่แคบๆ เหมือนในหนังไซไฟแบบ Alien โดยตรงกำแพงและส่วนต่างๆ ของฐานก็จะมีเส้นแสงสีสดๆ มากมาย
แล้วหนังก็เปิดประเด็นไว้ดีอย่างที่บอกน่ะครับ ตามด้วยการเปิดปมให้เราสงสัย ช่วงต้นๆ ก็โอเคน่ะครับ แต่พอเดินเรื่องไปสักพักมันก็ไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว ทุกอย่างดูจะย่ำอยู่กับที่ ที่เหลือก็รอแค่ว่ามันจะมีเหตุการณ์นรกแตกอะไรเกิดขึ้นในฐานใต้ดินปิดตายแห่งนี้ไหม (แล้วมันก็มีจริงๆ)
แต่ปัญหาคือหนังมันไปไม่สุดครับ คือที่เห็นๆ น่ะมันเป็นไซไฟแน่นอน แต่การทิ้งปมตามปมมันยังไม่มีอะไรน่าติดตามขนาดนั้น กระทั่งว่าตอนท้ายที่หนังเหมือนจะทำให้นึกถึง Morgan แต่ไปๆ มาๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรระทึกขนาดนั้น ความตื่นเต้นเร้าใจยังนับว่าไม่มาก
ก็เสียดายนิดๆ ครับ เพราะประเด็นเปิดมามันดูดีนะ มันสามารถต่อยอดวิพากษ์เรื่องการศึกษาได้อีกหลายอย่างเลย แต่หนังก็ไปไม่ถึงจุดนั้นครับ (สุดท้ายมันเหมือนจะสรุปประมาณว่า หากจะผลิตเด็กให้ออกไปสู่กับตลาดโลกได้ ก็ต้องโหด อะไรประมาณนั้น จริงๆ ประเด็นก็ดีครับ แต่การนำเสนอมันยังไม่เต็มที่
โดยรวมคือน่าสนตอนต้น และเริ่มธรรมดาในตอนกลาง ก่อนที่ตอนจบแม้จะพยายามขมวดปมให้ตื่นเต้น แต่มันก็ไม่ได้ตื่นเต้นดังคาด
คะแนนความชอบ 5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Captain Phillips (2013) กัปตันฟิลิปส์ ฝ่านาทีระทึกโลก
2434 0Captain Phillips เป็นหนังที่เข้มข้น ตื่นเต้น ลุ้นระทึก แม้หนังจะยาว 2 ชั่วโมงกว่าก็ตามครับ แต่ไม่รู้สึกว่าหนังยาวเกินไป เพราะมันมีอะไรให้ติดตามตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Black Room (2017)
1768 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ดูหนังเรื่องนี้แล้วแอบอึ้ง พร้อมตะลึงทางอารมณ์ เพราะไม่นึกว่าหนังมันจะเป็นอะไรแบบนี้น่ะครับ… ถ้าให้พูดตรงๆ คือหนังดูน่าสนใจในเบื้องต้น แต่กลับกลายเป็นอะไรที่เละในตอนกลางและตอนท้าย ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Knock Knock (2015) ล่อมาเชือด
2335 0ผลงานล่าสุดของผู้กำกับสายโหด Eli Roth (Cabin Fever, Hostel 1 – 2 และ The Green Inferno) ที่มาคราวนี้พี่แกลดดีกรีความโหดความแหวะและปริมาณเลือดลงครับ มาเน้นความระทึกผสมจิตวิทยาแทน ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด