รีวิว War for the Planet of the Apes (2017) มหาสงครามพิภพวานร (ตอนที่ 2)
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ดนตรีประกอบก็เป็นอีกหนึ่งของดีที่เสริมรสชาติให้กับหนังได้อย่างเยอะ ซึ่งก็เป็นฝีมือของ Michael Giacchino คอมโพเซอร์ที่อุดมผลงานสร้างสรรค์มากๆ ในระยะหลัง จุดเด่นของดนตรีในภาคนี้ไม่ได้เน้นอารมณ์อลังการหรือโฉ่งฉ่าง แต่เน้น “น้อยแต่แน่น” ครับ
ผมชอบฉากที่ซีซาร์ขี่ม้าแยกเดี่ยวไป กะจะไปตามล่าท่านผู้พัน (Woody Harrelson) เพียงลำพัง ดนตรีช่วงนี้มันจี๊ดมากครับ นิ่งๆ น้อยๆ อ้อยสร้อยแบบเปลี่ยวเหงา เศร้าแบบน้ำตาซึมๆ มันเป็นการบอกอารมณ์เจ็บปวดของซีซาร์ได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ
ทีนี้พอหนังเข้าถึงครึ่งหลัง ก็พอเดาได้ครับว่ามันต้องมีสถานการณ์มาผลักดันให้ซีซาร์กับพรรคพวกต้องหาทางประกาศอิสรภาพให้ตนเอง แล้วก็ลุกขึ้นมาปะทะถึงขั้นแตกหักกับเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ถึงจุดนี้ก็ทำให้นึกถึงพวกหนังสงครามน่ะครับ ที่ต้องมีฝ่ายหนึ่งโดนกดขี่ข่มเหงจนพอถึงจุดหนึ่งก็ต้องลุกขึ้นสู้ จัดการกับพวกที่มาข่มเหงรังแกกัน (ในที่นี้ก็คือ มนุษย์)
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในประเด็นนี้ของหนังชุดนี้คืออะไรรู้ไหมครับ? ผมชอบที่มันดูเป็นไปได้ มันไม่ได้ดูน้ำเน่าเกิน มันไม่ใช่ว่ามนุษย์ช่างเลวแสนเลวแบบตัวร้ายดาดๆ ที่ถูกเขียนบทมาเพื่อเลวกับร้ายเท่านั้น ว่าง่ายๆ คือไม่ใช่ผู้ร้ายตามสูตรน่ะครับ แต่มนุษย์ในเรื่องร้ายอย่างมีเหตุผล
ไม่ว่าจะร้ายเพราะความกลัว ความไม่รู้ ความเห็นแก่ตัว และในบางบริบทมันก็เกิดด้วยเจตนาที่ดีต่อมนุษยชาติด้วยซ้ำ ไหนจะมีประเด็นเรื่องไวรัสเชื้อร้ายมาลดทอนสมรรถนะของมนุษย์อีก ทั้งหมดมันเลยดูเป็นเหตุเป็นผล เป็นช่วงเวลาที่โลกเกิดการเปลี่ยนแปลง (เหมือนตอนไดโนเสาร์สูญพันธุ์ แล้วมนุษย์อย่างเราก็มาแทนที่)
ความร้ายของมนุษย์ในเรื่องมันอาจไม่ได้เรียกว่า “ร้าย” แต่ออกแนว “ความพยายามเฮือกสุดท้ายในการอยู่รอด” ซึ่งมันมีที่มาที่ไป มันเกิดจากสภาวะต่างๆ สิ่งแวดล้อมต่างๆ สภาวะการดำรงอยู่ของมนุษย์ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ มันค่อยๆ หล่อหลอมนำพามาจนถึงจุดนี้
ขณะเดียวกันวานรก็มีวิวัฒนาการ ฉลาดขึ้น คิดเป็น สื่อสารกันได้ (ผมดีใจมากที่หนังไม่ได้กำหนดให้วานรทุกตัวพูดได้ มันทำให้อะไรๆ ดูจริงขึ้นเยอะ) และมีวานรธรรมมากขึ้น (ประมาณมนุษยธรรมน่ะครับ แต่ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรดี) ทั้งหมดนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงการหมดวาระของมนุษย์และการรุ่งเรืองขึ้นของวานรได้อย่างดี
ดูแล้วชวนให้ใจปลงเหมือนกันน่ะนะครับ… ทุกวันนี้เราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าสภาวะโลกปั่นป่วน ธรรมชาติเกิดภัยในหลายรูปแบบ มนุษย์ก็ดูจะเห็นแก่ตัวกันและทำร้ายต่อกันได้ง่ายขึ้น แม้เทคโนโลยีจะไปไกลจนมันน่าจะสร้างความปลอดภัยให้เราได้ดีขึ้น แต่ความประมาทของคนเรากลับมากขึ้น ยอดคนตายจากอุบัติเหตุกลับมากขึ้น (ยิ่งบ้านเรานี่ทำลายสถิติในทุกๆ ปี)
เราเอาเทคโนโลยีมาเสพเพื่อความสำราญมากกว่าจะเอามาหาทางฟื้นฟูโลกใบนี้… ยุคหนึ่งเราเสพทรัพยากรธรรมชาติแบบไม่ลืมหูลืมตา มายุคนี้เราก็เสพสุขเสพความสบายจากเทคโนโลยีจนไม่ลืมหูลืมตาเช่นกัน บางครั้งเราก็เหมือนอีกาหรือตั๊กแตนที่ร่อนลงมากินอาหารให้หมดไร่ ก่อนจะบินหนีไปหาไร่ใหม่เพื่อกินต่อไป… มีกินจนกว่าจะไม่มีกิน…
อดคิดไม่ได้ว่า ณ ตอนนี้มนุษย์เราอาจติดไวรัสที่ทำลายตัวเราเองอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัวก็ได้…เปล่าครับ ไม่ใช่ไวรัสที่เป็นจุลชีพแบบในหนัง แต่มันคือ ไวรัสความประมาท, ไวรัสความอวดดี, ไวรัสความไม่รับผิดชอบ, ไวรัสดราม่า, ไวรัสเอาแต่อารมณ์, ไวรัสเห็นแก่ตัว ฯลฯ ไวรัสเหล่านี้อาจกำลังลดปริมาณประชากรของเราอย่างช้าๆ… อาจเพื่อลดปริมาณคนเพื่อปรับสมดุลย์ให้กับโลก (เพราะมนุษย์อาจมีมากเกินไปแล้วในสายตาธรรมชาติ) หรือไม่ก็อาจเพื่อแผ้วถางที่ทางให้สิ่งมีชีวิตในยุคต่อไป ขึ้นมาแทนที่เรา…
ไม่ว่าทางไหน แต่หากเราไม่แก้ไข เหตุการณ์ในหนัง ก็จะมาเกิดกับเราจนได้…
Matt Reeves คุมหนังได้ดีเช่นเคยครับ เขาคุมทั้งโทนและเรื่องราวได้อย่างอยู่มือ หากจะมีอะไรที่ยังไม่โดนใจผมก็คงเป็นไคลแม็กซ์ตอนท้ายที่น่าจะเร้าใจและยิ่งใหญ่ได้มากกว่านี้ อันนี้คงเป็นที่ความคาดหวังของผมด้วยน่ะครับ เพราะภาคก่อนทำไคลแม็กซ์ได้ตื่นเต้นมากอยู่ ในขณะที่ภาคนี้ตอนท้ายความลุ้นออกจะดร็อปลงมาพอสมควร
ถึงจุดนี้หากให้สรุปความชอบแล้ว ผมชอบไตรภาครีบูทของหนังชุดนี้พอๆ กับภาคต้นฉบับเลยครับ ขณะที่ภาคของ Tim Burton แม้หลายคนจะบ่นกัน แต่ผมก็ยังชอบในฐานะที่ดูได้เพลินๆ (แต่ยอมรับว่าพอเอามาดูซ้ำรอบหลังๆ ก็มีบ้างบางวาระที่แอบนิ่งๆ)
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว The Nine Lives of Christmas (2014)
2135 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ช่วงสิ้นปีคือช่วงที่ทีวีหลายๆ ช่องของอเมริกาจะทำหนังที่มีกลิ่นอายของบรรยากาศวันคริสต์มาสออกมาครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมว่าเป็นอะไรที่ดีอยู่นะครับ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว A Novel Romance (2015)
1974 0A Novel Romance หนังรักโรแมนติกหวานๆ สไตล์ Hallmark ครับ กับเรื่องของเลียม แบรดลี่ย์ (Dylan Bruce) นักเขียนนิยายขายดีเจ้าของนามปากกา เกเบรียล ออกัสท์ที่กำลังถึงทางตันครับ เขาเขียนงานไม่ออก และเขารู้สึกได้เลยว่างานชิ้นหลังๆ ของเขามันขาดบางสิ่งไป จนมีคนแนะนำให้เขาไปพักตากอากาศ เขาเลยเดินทางไปเปลี่ยนหย่อนใจในพอร์ทแลนด์ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Ouija (2014) กระดานผีกระชากวิญญาณ
2802 0Ouija อาจไม่ใช่หนังผีที่สุดยอดจนไร้ที่ติ แต่อย่างน้อยก็ดูเอาเพลิน (แบบสยองๆ) ได้ไม่เลวครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด