รีวิวซีรี่ส์ True Detective ปี 1 (2014)
ดู True Detective ปี 1 แล้วโดนของจนได้
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
ผมแน่ใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบซีรี่ส์นี้ครับ เพราะมันไม่ได้เร่งเร้า ฉับไว หรือตื่นเต้นฉูดฉาดอะไรมากมาย
หลายคนคงมองว่านี่คือซีรี่ส์สืบสวน แต่เอาเข้าจริงแล้วมันจะเทน้ำหนักไปในทางดราม่ามากกว่าครับ เน้นให้เราได้เห็นพฤติกรรมของแต่ละตัวละคร ทั้งความคิด จิตใจ ทัศนคติ และการตัดสินใจเลือกทางเดินของตน ซึ่งถ้าพูดถึงประเด็นเชิงดราม่าพวกนี้ ถือว่าหนังทำได้เข้มถึงเข้มมากๆ
ดาราน่ะเด็ดอยู่แล้วครับ จับ Matthew McConaughey มาเจอ Woody Harrelson ในบท 2 นักสืบที่ต้องร่วมงานกันคลี่คลายคดีฆาตกรรม ซึ่งก็อย่างที่บอกครับว่าเอาเข้าจริงแล้ว คดีฆาตกรรมมันคือพล็อตรอง เราจะไม่ได้เห็นการตามล่าฆาตกรที่หักมุมไปมาหรือไล่ล่ากันแบบมันส์สุดๆ (กว่าจะล่ากันแบบเต็มๆ ก็ปาเข้าไปตอนสุดท้ายของปีน่ะครับ) ดังนั้นคอหนังสืบสวนที่คาดหวังอะไรแบบ CSI, NCIS หรือ Hawaii Five-O ก็อาจต้องปรับสักหน่อยครับ
ของดีที่ซีรี่ส์มีให้คือการลงลึกให้เราเห็น “มิติมนุษย์” ของ 2 ตัวละครหลัก ที่พวกเขาคือปุถุชน พวกเขาคือคนที่มีทั้งดีและร้าย มีทั้งมุมมืดและมุมสว่าง
บางการกระทำของพวกเขา เราอาจมองว่าผิดเต็มประตู แต่ในมุมของพวกเขาแล้ว พวกเขาเลือกที่จะทำ โดยบางครั้งก็มีเหตุผลรองรับ แต่ในบางครั้งพวกเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนถึงตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นไป
ยอมรับเลยครับว่าตอนแรกผมดูก็ด้วยอารมณ์ชอบซีรี่ส์สืบสวน ก็หวังว่ามันจะสืบสนุกและทิ้งปมให้น่าติดตาม แต่ไปๆ มาๆ ผมกลับติดหนึบไปกับการตามติดชีวิตของพวกเขา อยากรู้ว่าพวกเขาจะไปเจออะไรอีก จะตัดสินใจทำอะไรต่อ และจะต้องรับผลในการกระทำแบบไหนบ้าง
กล่าวคือผมไม่ติดที่จะตามคดี แต่ผมติดที่จะดูชะตากรรมต่อๆ ไปของพวกตัวเอกมากกว่า
จะว่าไปก็สมชื่อ True Detective นะครับ มันคือชีวิตของเจ้าหน้าที่สืบคดีจริงๆ น่ะ คือมันไม่ใช่ว่าจะสวมชุดเท่ห์แล้วก็ขับรถออกไปตามปม ไปที่ไหนก็เจอปม คุยกับใครๆ ก็เจอเบาแส แล้วสักพักก็คลี่คลายคดีได้… เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายแบบนั้นนะ
สิ่งที่เราเห็นมัน “จริง” น่ะครับ เราจะได้เห็นพวกเขาไปโน่นไปนี่ บางทีก็คว้าน้ำเหลว บางทีก็ไม่เจออะไร หรือบางครั้งก็สางปมไปผิดทาง หรือไม่บางครั้งก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะไปสืบที่ไหน ก็กลับไปหาครอบครัวหรือไม่ก็ไปหาแก้วเหล้า ดื่มซะ พักผ่อนซะ เดี๋ยวถ้าคิดออกก็ค่อยสืบต่อ
หรือถ้าคิดไม่ออกก็ไปดูคดีอื่นๆ ไปพลางๆ…
ใช่ว่าคดีหนึ่งมันจะสืบเสร็จจบเรียบร้อยในเวลาอันสั้นเสียเมื่อไร… พูดเป็นหนังไปได้ (555)
ครับ สำหรับผม ผมคงจดจำซีรี่ส์นี้ในฐานะซีรี่ส์แนวดราม่าเข้มข้นที่มีการสืบสวนเป็นแบ็คกราวน์ และมันไม่ได้มีดีแค่ดาราหรือบทเข้มเท่านั้นนะครับ จุดที่ผมชอบมากๆ อีกอย่างคือบรรยากาศครับ มันอึมครึม กดดันได้ใจสุดๆ
ฉากไหนชวนหดหู่ ภาพตรงหน้าก็ชวนให้รู้สึกหดหู่ได้อย่างมากมาย ฉากไหนชวนให้เสียวสันหลังล่ะก็ อารมณ์+ฉาก+โลเกชั่น+โทนสีของภาพก็จะช่วยกันทำงานให้เราเกิดอารมณ์เสียวสันหลังขึ้นมาได้สำเร็จ จุดนี้ขอชมผู้กำกับ Cary Fukunaga เลยครับ พี่แกเอาอยู่จริงๆ โทนมันได้ อารมณ์มันถึง (เสียดายมากมายที่เขาไม่ได้กำกับ Stephen King’s IT เวอร์ชั่นล่าสุด เพราะผมว่าพี่แกทำได้แน่ๆ น่ะครับ ลองว่าทำ True Detective ได้ขลังขนาดเนี้ย)
พูดถึงโลเกชั่นก็จัดว่าเด็ดครับ เลือกได้ดี เข้ากับโทนเรื่อง อีกทั้งมุมกล้องก็พอเหมาะ โดยเฉพาะตอนจับภาพมุมสูงที่จะถ่ายไล่เลาะไปตามป่าหรือตามถนนนี่มันได้ใจจริงๆ ภาพสวยจนถึงขั้นคลาสสิกในหลายๆ ฉากทีเดียว
ผมไม่แน่ใจหรอกครับว่าผมจะสื่อสารในสิ่งที่ผมคิดได้ดีมากน้อยแค่ไหน เอาเป็นว่านี่คือซีรี่ส์ดราม่าผสมสืบสวนที่ทำออกมาได้เข้มข้นแบบสุดๆ (ขอย้ำนะครับว่าหนังเทน้ำหนักไปที่ดราม่า 70% ส่วนการสืบสวนน่าจะประมาณ 30%) ซึ่งผมอยากให้ลองลิ้มกันดูก่อนสักตอน 2 ตอนครับ ไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน
ปล. การตามดูชีวิตของ 2 ตัวเอก หลายวาระก็ชวนให้สะท้อนคิดถึงตัวเราเอง หรือไม่ก็คิดถึงความเยอะแยะยุ่งเหยิงของจิตใจเพื่อนมนุษย์อยู่ไม่น้อยเหมือนกันครับ
… หลายครั้งมันก็สอนใจ และบางครั้งมันก็ทำให้เราเห็น “เยี่ยงอย่างบางประการที่ไม่ควรเดินรอยตาม”
… แล้วแต่เราจะตีความและเปิดใจพิจารณามัน
คะแนนความชอบ 8.5/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Hell House LLC (2015)
1986 0เมื่อพูดถึงหนังแนว Found Footage หลายคนก็อาจจะอยากส่ายหน้าน่ะนะครับ บางคนส่ายเพราะไม่ชอบแนวนี้เลย ดูทีไรเวียนหัวทุกที หรือบางคนก็อาจส่ายเพราะเริ่มจะเอียนกับหนังแนวนี้แล้ว (เพราะมันออกมาเยอะมากจริงๆ) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด และด้วยความที่หนังแบบนี้มันมีออกมาเยอะ ก็เลยทำให้หนังแนวนี้หลายๆ เรื่องโดนเบียดตกไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหนังที่ไม่ได้มีทุนสูงจนสามารถฉายโรงใหญ่ได้ก็จะถูกกลืนหายไปในพริบตา นั่นก็เลยเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แม้ผมจะเอียนกับหนังแนวนี้เหมือนกัน แต่ก็พร้อมจะดูหากมีโอกาสครับ เผื่อจะไปเจอเรื่องที่มันเข้าท่าๆ บ้าง และผมก็อยากจะบอกว่า เรื่องนี้ที่ผมกำลังจะเล่า ถือว่าเข้าท่าไม่น้อยเหมือนกันครับ พล็อตผมว่าเข้าท่านะ เป็นเรื่องของกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่จะพากันเดินทางไปยังเมืองต่างๆ แล้วก็หาอาคารเก่าๆ สักหลังมาตกแต่งให้เป็นบ้านผีสิง แล้วก็เปิดบริการให้ผู้คนตีตั๋วเข้ามาสัมผัสประสบการณ์หลอนๆ กัน ลักษณะก็ประมาณงานวัดน่ะครับ ย้ายไปจัดตามเมืองต่างๆ แต่นี่เป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ แล้วก็ทำแค่บ้านผีสิงจากอาคารร้างของจริง ซึ่งถ้ามองในแง่ธุรกิจก็ถือว่าหัวใสไม่เลว… แต่แล้วครั้งล่าสุด พวกเขาก็ต้องเจอกับเรื่องสยอง… หนังนำเสนอออกมาในแนวกึ่งๆ สารคดีครับ ตอนต้นก็เปิดปมให้เราได้รับรู้ว่า การจัดบ้านผีสิงครั้งล่าสุดของพวกเขาต้องจบลงด้วยความสยอง
รีวิว Ju-on: The Final Curse (2015) จูออน ผีดุ 4 ปิดตำนานโคตรดุ
2574 1แรกๆ ผมว่าผีจูออนน่ากลัวนะ แต่พอดูภาคหลังๆ แล้วมันออกแนวรำคาญ คือพวกพี่จะระรานชาวบ้านอีกนานแค่ไหนครับ ทั้งที่จริงๆ เจ๊คายาโกะก็ดูจะเหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ (ไปไหนมาไหนคลานตลอด) ทำไมไม่หันไปหาความสงบให้ชีวิตบ้างล่ะนี่ (555) ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Allegiant (2016) อัลลีเจนท์ ปฎิวัติสองโลก
2623 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ได้ข่าวมาว่าภาคต่อไปของหนังชุด spanergent (อันจะเป็นภาคจบ) จะถูกหั่นงบลงครับ เนื่องจากภาคนี้ทำเงินไม่เข้าเป้าอย่างแรง ลงทุนไปประมาณ $110 ล้าน แต่เพิ่งทำเงินคืนมาได้เพียง $136 ล้าน นี่คือนับจากทั่วโลกแล้วนะครับ (ถ้าเฉพาะในอเมริกาก็ยังทำไปไม่ถึง $60 ล้านเลยครับ) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด