รีวิว Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day (2014) วันอลวนของครอบครัวอลเวง
Alexander and the Terrible, Horrible, No Good, Very Bad Day ดัดแปลงจากหนังสือสำหรับเด็กที่ได้รับความนิยมมาหลายสิบปีครับ (ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1972) เนื้อเรื่องว่าด้วยหนุ่มน้อย อเล็กซานเดอร์ (Ed Oxenbould) ที่ชีวิตของเขาเต็มด้วยคำว่า “ซวยซ้ำซ้อน” และ “ซวยซ้ำซาก” แต่พ่อแม่พี่น้องเขากลับไม่มีใครเข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
อยู่มาวันหนึ่งอเล็กซ์กำลังซวยสุดๆ แต่ทุกคนในครอบครัวกลับไม่คิดจะให้กำลังใจเขาเลย เขาเลยอธิษฐานในวันเกิด ขอให้ทุกคนเข้าใจหัวอกคนสุดซวยประจำเมืองอย่างเขาบ้าง… แล้วก็ตามคาดครับ วันรุ่งนี้ทุกคนซวยระดับบรรลัยวายป่วงตามคำอธิษฐานเป๊ะ
ใครชอบหนังชุด Diary of a Wimpy Kid ก็ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ครับ ความสนุกถือว่าไม่น้อยหน้ากัน (แต่โดยส่วนตัวผมมองว่า Wimpy Kid ลงตัวกว่าหน่อย) หนังได้ดาราที่พร้อมจะเล่นบทฮาแบบไม่ห่วงภาพพจน์อย่าง Steve Carell และ Jennifer Garner ที่มาเป็นพ่อและแม่ของอเล็กซ์ 2 รายนี้ก็เล่นได้ลื่นดีครับ แล้วก็ยังมี Bella Thorne มาแสดงสมทบในบทสาวน้อยที่พี่ของอเล็กซ์หมายปอง
เป็นหนังที่ดูเพลินดีครับ ฮาเป็นพักๆ อาจไม่ถึงขั้นฮาน้ำตาไหล แต่ก็คลายเครียดได้สบายๆ หนังกำกับโดย Miguel Arteta (The Good Girl, Cedar Rapids และซีรี่ส์ทีวีอีกหลายตอน) ซึ่งก็ถือว่าเขาคุมหนังได้ไม่เลวครับ ออกมาพอดีๆ
สาระสำคัญของหนังหนีไม่พ้นเรื่องครอบครัวครับ บางครั้งคนในครอบครัวก็ลืมที่จะ ใส่ใจกัน ไม่ใช่ไม่ใส่ใจนะ คือยังใส่ใจหวังดีนั่นแหละ เพียงแต่บางจังหวะก็ลืมไป คิดว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยใส่ใจก็ได้ หรือไม่ก็มองว่า “อ๋อ เจอปัญหาเหรอ ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
สุดท้ายคนที่เครียดอยู่หรือเจอปัญหาอยู่ก็ไม่มีใครให้คำปรึกษา ไม่มีใครให้ระบายหรือแนะนำทางออก เลยนั่งเครียดวนเวียนอยู่กับตัวเอง คิดไปคิดมาคิดไม่ออกก็ยิ่งเครียด ไปๆ มาๆ ก็พาลโกรธคนอื่นๆ ที่ไม่สนใจตนไปเสียอย่างนั้น
เรื่องเหล่านี้ละเอียดอ่อนครับ อยู่ที่เราจะมองในมุมไหน ถ้าเรามองในมุมคนที่สบายใจ ก็อาจคิดว่าเรื่องของใครก็ของเขา จะมาโกรธเราได้ยังไง อย่างนี้มันพาลนี่หน่า
แต่ถ้ามองในคนที่กำลังหมดแรงหมดใจล่ะก็ เขาแค่กำลังต้องการใครสักคนโอบหลังตบไหล่ครับ แค่มีคนถามไถ่เขาก็ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่หากไม่มีใครสนใจหรือทำเหมือนเรื่องสำคัญที่เขากำลังเผชิญอยู่เป็นเรื่องไร้สาระ ความไม่พอใจก็เกิดขึ้นได้ ประมาณว่า “ช่วยแค่นี้ไม่ได้ใช่ไหม” มันคือเรื่องของความรู้สึกจริงๆ ครับ
ผมชอบนะครับเรื่องนี้ ความสนุกก็โอเค แต่ที่โอเคกว่าคือแง่คิดที่กระตุ้นให้คนในครอบครัวหันมาให้ เวลากัน ยิ่งครอบครัวไหนใหญ่ๆ แล้วชอบบอกว่า “ไม่มีเวลาให้กัน เพราะคนเยอะ” แต่หากคิดในแง่หนึ่งแล้ว คนเยอะนี่แหละครับดี ช่วยกันแบ่งเบา ช่วยกันประคองคนในบ้านที่กำลังเครียดได้แบบแบ่งๆ กันไป
เช่น น้องคนรองเครียด ก็ให้พี่คนโตแวะมาตบไหล่นิดนึง ให้น้องคนเล็กมายิ้มให้หน่อย ให้พ่อแม่แนะนำหน่อย หลายอย่างที่หนักหัวคนเครียดก็เบาลงเยอะแล้วครับ แม้ปัญหาจะไม่คลี่คลาย แต่อย่างน้อยคนที่เครียดก็จะบรรเทาลง และยังมองว่าชีวิตยังมีหวังได้
และสำหรับคนเจอปัญหานะครับ เรามักจะมองว่าปัญหาเราใหญ่ที่สุดในสามโลก ปัญหาคนอื่นน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่ของฉันมันใหญ่ มันยุ่ง มันคอขาดบาดตาย ไม่ว่าปัญหาจะหนักจริงหรือไม่ แต่เราจะมองว่าหนักมองว่าใหญ่อยู่เสมอครับ
อันนี้ไม่ใช่ของแปลก ก็เพราะปัญหาของเรามันอยู่ใกล้เราไงครับ เราย่อมมองเห็นมันชัดกว่าใคร ในขณะที่คนอื่นมองจากมุมไกล ก็มองว่ามันไม่ใหญ่เท่าไรน้า แต่ของฉันสิ (ที่ตัวเองอยู่ใกล้) มันใหญ่กว่านะ มันคือเรื่องปกติครับ เถียงกันให้ตายก็ไม่จบครับว่าปัญหาใครใหญ่กว่ากัน (และจริงๆ ก็ไม่รู้จะเถียงไปทำไม ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย)
เมื่อเราเจอปัญหา ก็ลองรับมือมันครับ ถ้าไม่ไหวก็ไปพัก ถ้าอยากได้คนช่วยก็ร้องขอ อย่ามัวแต่รอให้คนมาช่วยโดยไม่เอ่ยปาก (เพราะบางครั้งคนอื่นก็ไม่รู้หรอกครับว่าเราต้องการความช่วยเหลือ) หรือถ้าปัญหามันใหญ่มากๆ ก็ลองถอดมันทีละส่วน ดูว่าเราพอจะแยกย่อยปัญหา แก้ทีละส่วนได้ไหม ลองลดขนาดมันดูก่อนครับ
อย่าลืมนะครับ ถ้าเหนื่อยก็ต้องพัก ถ้าหนักก็ต้องผ่อน ถ้าง่วงก็ต้องนอน
เอาเป็นว่าดูได้สนุกๆ เลยครับผม แล้วอย่าลืมใส่ใจคนรอบข้างด้วยนะครับ
คะแนนความชอบ 7/10 ครับ
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
The Water spaniner จอมคนหัวใจเทพ
2307 0เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ รัสเซลล์ โคร์ว ที่ได้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ กับภาพยนตร์เรื่อง The Water spaniner มีชื่ภาษาไทยว่า จอมคนหัวใจเทพ ภาพยนตร์ดราม่าผจญภัยที่สุดซึ้ง และได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากสื่อมวลชนอีกด้วยเมื่อได้เปิดทำการฉายครั้งแรกที่อเมริกา และเรื่องนี้เอง รัสเซลล์ โคร์ว นอกจะจะรับหน้าที่ผู้กำกับแล้ว ยังได้เป็นนักแสดงนำในเรื่องอีกด้วย ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด The Water spaniner เป็นเรื่องราวของ คอนเนอร์ เป็นชาวนาชาวออสเตรเลีย ที่ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบอยู่กับครอบครัวของเขา ซึ่งประกอบไปด้วยลูกชาย 3 คน และภรรยา ครอบครัวนั้นมีความสุขมาก แต่เมื่อหายนะมาถึง เมื่อมีสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นที่คาบสมุทรกัลลิโปลี ทำให้ลูกชายทั้งสามคนของเขาได้หายไปในขณะนั้น ในช่วงนั้นเขาและภรรยาได้หนักใจมาก
รีวิว The Last Song (2010) ขอเพลงสุดท้ายมีเพียงสองเรา
2463 0The Last Song อีกหนึ่งหนังที่ดัดแปลงจากงานเขียนของ Nicholas Sparks ครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Automata (2014) ล่าจักรกล ยึดอนาคต
1951 0Autómata เป็นหนังไซไฟโลกอนาคตครับ พล็อตชวนให้นึกถึงหนังอย่าง I, Robot แต่มันจะไม่อลังการแบบนั้นครับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เนื้อเรื่องก็ว่าด้วย ฌาค วาแคน (Antonio Banderas) เจ้าหน้าที่บริษัทหุ่นยนต์ที่ต้องตามสืบเงื่อนงำของพวกหุ่นยนต์ที่เริ่มมีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง และมีแววว่าจะก่อการปฏิวัติ จนอาจก่อให้เกิดหายนะกับมนุษย์ได้ อารมณ์หนังก็ออกมาสไตล์เกรดบีที่ดูดีแบบเกรดเอครับ ฉากหลังคือโลกอนาคตที่แห้งแล้ง สิ่งแวดล้อมก็เสื่อมโทรมอันเนื่องจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งก็ชวนให้นึกถึง Cyborg และ Nemesis อยู่เหมือนกัน ในขณะที่พล็อตก็เน้นการสืบครับ เน้นการสนทนาสะท้อนสาระไม่ว่าจะสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ที่ค่อยๆ นำพาตัวเองไปสู่หายนะ (อย่างการใช้ทรัพยากรแบบไม่คิด โลกก็เลยแห้งแล้งเสื่อมลง เช่นนี้เป็นต้น) แต่หากพูดถึงความน่าติดตามแล้ว หนังยังไม่น่าติดตามขนาดนั้นครับ คือดูได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษอะไร ส่วนประเด็นสาระที่ว่านั้น หากใครดูหนังไซไฟที่มีหุ่นยนต์มาเยอะๆ ก็อาจไม่รู้สึกอะไรนัก