เรื่องนี้ทำให้ผมสนใจมากๆ ครับ เนื่องจากหนังเปิดตัวในอังกฤษด้วยตัวเลข $69 เหรียญ

ครับ ผมไม่ได้พิมพ์ผิด มันคือ $69 เหรียญจริงๆ… ถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านก็คือหนังล่มครับ

ครั้นพอดูแล้ว จริงๆ หนังไม่ได้ย่ำแย่อะไรขนาดนั้นครับ ตัวเอกคือ Olga Kurylenko ในบท อเล็กซ์ ฟาราเดย์ สาวแกร่งที่เคยปล้นร่วมกับกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่ง และในเวลาต่อมาเธอก็โดนตามล่าโดยนักฆ่ามืออาชีพ ทำให้เธอต้องหาทางเอาตัวรอดและสืบหาความจริงว่าใครคือจอมบงการ

หนังมันก็ชวนให้นึกถึงพวก John Wick หรือ Everly น่ะครับ ตัวเอกออกแนวเดี่ยวท้าลุย เก่งพอประมาณ เพียงแต่ในเรื่องนี้อเล็กซ์เธอไม่ได้เก่งขนาดนั้น และปมกับพล็อตก็ไม่ได้เข้มข้นอะไรมากด้วย กล่าวคือโดยรวมๆ แล้วหนังถือว่าออกมากลางๆ มีช่วงอืดบ้าง น่าเบื่อบ้าง แล้วก็มีบ้างในบางวาระที่มาพร้อมฉากที่ดูน่าสนใจ

นี่คืองานกำกับเรื่องแรกของ Stephen S. Campanelli เจ้าหน้าที่ฝ่ายกล้องที่ทำงานให้กับหนังดังๆ อย่าง Tomorrowland, American Sniper, The Maze Runner และ TRON: Legacy เป็นต้น (จริงๆ พี่แกทำงานมานานเกือบ 30 ปีน่ะครับ หนังดังๆ ส่วนมากพี่แกก็เป็นหนึ่งในทีมงานทั้งนั้นแหละ)

แต่สำหรับงานกำกับชิ้นนี้ ผมว่างานภาพโอเคนะ ไม่เสียชื่อฝ่ายกล้องมืออาชีพ ทว่าจุดอ่อนสำคัญก็คือบทนี่แหละครับที่ยังไม่เด็ดพอ ซึ่งก็เขียนโดย Adam Marcus (Jason Goes to Hell: The Final Friday และ Texas Chainsaw 3D) กับ Debra Sullivan (Texas Chainsaw 3) ซึ่งทั้งคู่ก็ผ่านงานมาแต่หนังสยองซะส่วนใหญ่ และผลที่ได้ในเรื่องนี้ก็ถือว่ายังไม่โอเคนักสำหรับงานหนังแอ็กชันสักเรื่อง

จริงๆ Kurylenko ถือว่าดูดีไม่น้อยครับ แต่บทไม่ส่ง ความเด่นไม่มาก ไปๆ มาๆ คนที่ดูจะเด่นกลับเป็น มิสเตอร์วอชิงตันที่รับบทโดย James Purefoy แต่ปัญหาคือแม้บทจะดูเด่น แต่ Purefoy เองก็ไม่ได้แสดงเด็ดอะไรมาก ก็เลยทำให้บทที่ดูจะเด่นก็ไม่ได้เด่นอะไรมากอีกเช่นกัน

ส่วน Morgan Freeman ออกแนวบทสมทบแบบ “สมท๊บบบบ สมทบ” ครับ ซึ่งจริงๆ เหตุผลที่ Freeman มาแสดงให้ก็เพราะเขากับผู้กำกับ Campanelli น่ะคุ้นเคยกันมานาน เนื่องจากได้ร่วมงานกันในหนังของ Clint Eastwood บ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ Freeman เลยมาเล่นให้นัยว่าเอาฤกษ์เอาชัยน่ะครับ (แต่น่าเสียดายที่หนังไม่เวิร์ก จะเอาฤกษ์แค่ไหนก็คงไม่ขึ้น)

สรุปแล้วนี่ก็คือหนังแอ็กชันระดับกลางๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ฟอร์มดูน่าสนใจ แต่ผลที่ได้ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แล้วก็ไม่เวิร์กสักเท่าไรครับ

อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ถ้าใครคาดหวังว่าช่วงท้ายของเรื่องจะมีแอ็กชันมันส์ๆ หรือมีไคลแม็กซ์ที่กระหน่ำความตื่นเต้นล่ะก็ ขอให้ปรับทัศนคติโดยด่วนเลยนะครับ เพราะมันไม่มีหรอก ตอนท้ายออกแนวหักเหลี่ยมใช้ไหวพริบกันมากกว่า แต่ต้องบอกก่อนว่า ผมใช้คำว่า “ออกแนว” นะครับ เพราะตอนท้ายมันมาแนวนั้นจริงๆ แต่ถ้าถามว่ามันหักเหลี่ยมกันสนุกไหม ชิงไหวพริบกันเจ๋งไหม ก็บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรให้พูดถึง

เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำ

… กระนั้นการที่หนังทำเงินในอังกฤษไปแค่ $69 เหรียญนั้น ก็นับว่าโหดเกินนะ
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน