Like This Video 1750

Added by พี่หมื่น 22/06/2016

จากเกมมือถืออภิมหาดังที่ผมเชื่อว่าแทบทุกคนต้องเคยสัมผัสประสบการณ์ลากแล้วยิงกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งตอนนี้ก็มีภาคแยกทำออกมาหลายเวอร์ชั่นจนเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว (แล้วยังอุตส่าห์มีอัพเดตฉากพิเศษให้อีกเรื่อยๆ อีกด้วยนะ)

อย่างผมเองก็ชอบครับ บางวาระก็ติดนะ เพราะเล่นแล้วมันติดพัน เล่นแล้วมันส์ หรือไม่ก็เล่นแล้วตะขิดตะขวงใจ ว่าทำไมมันไม่ผ่านซะทีฟะ ยิงทุกมุมทุกวิธีแล้วนะ… แต่บางทีฉากที่ว่า นึกจะผ่านก็ผ่านแบบง่ายๆ ซะงั้น

ผมเคยคิดว่าอาจจะเป็นการ “ยอม” ของเกมก็ได้นะ ประมาณว่าถ้าเห็นเราเล่นไม่ผ่านนานๆ เข้า มันคงรู้ว่าถึงจุดหนึ่งเราจะรำคา ญและเลิกเล่นแน่นอน ดังนั้นมันเลยยอมๆ ให้ผ่านซะ เราจะได้เล่นต่อ (อันนี้คิดเล่นๆ ครับ แต่สังเกตหลายทีแล้ว มันชวนให้นึกไปแบบนั้นจริงๆ นะ)

แล้วพอดังมากๆ เข้า การทำเป็นหนังก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ซึ่งเวอร์ชั่นเดอะ มูฟวี่นี้ก็เอาตัวละครหน้าคุ้นจากเกมมาใส่ลงและผูกเป็นเรื่องราว ตัวเอกคือ เรด เจ้านกแดงที่มีความโกรธอันแน่นในตัวจนพี่แกต้องสำแดงความโกรธออกมา สร้างความเดือนร้อน (หรือรำคาญ) ให้กับชาวนกด้วยกันอยู่บ่อยๆ

จนล่าสุดศาลประจำเมืองก็สั่งให้เขาไปทำการบำบัดความโกรธซะ อันทำให้เขาได้เจอกับเพื่อนใหม่อย่างชัค (เจ้าตัวเหลือง) กับ บอมบ์ (เจ้าตัวดำป้อม) แล้ววันหนึ่งก็มีพลพรรคหมูเขียวยกพวกมาในเมืองครับ (ตอนแรกมาไม่กี่ตัว หลังๆ มากันเต็มเกาะ)

โดยท่าทางตอนแรกพวกหมูมันดูเป็นมิตรนะ แต่เรดก็เอะใจกับพฤติกรรมบางอย่างที่ดูไม่น่าไว้วางใจ ซึ่งก็แน่นอนว่าชาวเมืองไม่เชื่อเรดหรอก แต่แล้วพวกเจ้าพวกหมูเขียวเริ่มออกลาย ก็ถึงเวลาที่เหล่านกตัวกลมต้องหาทางต่อสู้เพื่อปกป้องเกาะของพวกมัน

ตัวหนังก็สนุกดีครับ ดูได้เพลินๆ เอามันส์ เอาฮา แต่ก็คงต้องบอกว่ามันไม่ได้เด็ดมากหรือสนุกมากขนาดนั้น ออกแนวป็อบคอร์นน่ะครับ ดูขำๆ แก้เครียด ไม่คิดมาก จบแล้วก็จบกัน ไม่ได้มีจุดให้ประทับใจหรือโดนใจหนักๆ ซึ่งก็พอเข้าใจล่ะครับเพราะวัตถุดิบของ Angry Birds มันก็เหมาะสำหรับความสนุก มากกว่าจะเป็นเรื่องเป็นราวแบบลึกซึ้ง

แต่ผมแอบคิดนะว่าถ้า Pixar เอาไปทำล่ะก็ มันอาจมีการดัดแปลงให้มีความลึกซึ้งแบบที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ เพราะถ้าจะทำให้มันลึกมันซึ้ง มันก็พอมีปมอยู่ … แต่ถ้าคิดอีกที หากทำออกมาแบบนั้นมันก็อาจไม่ใช่ Angry Birds เอามันส์แบบที่เรารู้จักก็ได้… สรุปว่าเป็นแบบนี้ก็โอแล้วล่ะครับ

หนังดูได้เรื่อยๆ สนุกและฮาไปจนจบ แต่ลูกเล่นอาจไม่ได้เยอะอะไรมาก อารมณ์เหมือนตอนเล่นเกมน่ะครับ เอามันส์ให้จบไปเป็นฉากๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านั่นแหละครับความสนุกของมัน เอาเพลินแบบแป๊บๆ ทำให้เราลืมโลกไปชั่วครั้งคราว

นี่ก็เป็นงานกำกับหนแรกของ Clay Kaytis และ Fergal Reilly ที่เคยอยู่เบื้องหลังงานอนิเมชั่นของ Disney และ Dreamworks มาก่อน (แต่น่าสังเกตว่าไม่เคยผ่านงานของ Pixar มาก่อนเลยสักคน) ผลที่ได้ก็ออกมาเรื่อยๆ เพลินๆ อย่างที่บอกนั่นแหละครับ

สรุปว่าดูเอาเพลินครับ ดูจากรายได้แล้วก็ไม่เลว ทำไปประมาณ $315 ล้านจากทั่วโลก โดยลงทุนไปประมาณ $73 ล้าน ก็คือกำไรครับ แต่ก็อาจจะไม่มีตอนต่อทำออกมา ซึ่งผมว่าก็ไม่เป็นไรนะ ภาคเดียวจบก็พอดีพอเหมาะในแบบของมันแล้ว (ยกเว้นจะมีคนหัวใสคิดพล็อตภาคแยกอื่นๆ เช่น Season หรือ Space นั่นก็อีกเรื่อง)
คะแนนความชอบ 6/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน