รีวิวซีรี่ส์ The Flash Season 2 (2015 – 2016) เดอะ แฟลช วีรบุรุษเหนือแสง ปี 2
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
จะว่าไปแล้วผมชอบปี 2 มากกว่าปีแรกอีกครับ คือปีแรกสนุกครับ เดินเรื่องฉับไว รวดเร็ว น่าติดตาม แต่ก็ยังมีจุดชะลอความน่าติดตามอยู่บ้างอย่างคาแรคเตอร์ของเจ๊ไอริส เวสท์ (Candice Patton) ที่บางทีก็เยอะเกิน (แอบรำคาญในหลายวาระเหมือนกัน 555)
ครั้นพอมาปีนี้ผู้สร้างก็คงรู้น่ะครับ เลยตัดปมนี้ออก แล้วมามุ่งเน้นที่เรื่องราวเป็นหลัก ซึ่งปีนี้ แบร์รี่ อัลเลน หรือ เดอะ แฟลช (Grant Gustin) ก็ได้รับการยกย่องจากชาวเมืองที่ช่วยป้องกันหายนะของเมืองไปเมื่อปีก่อน และทำให้เมืองเซ็นทรัลซิตี้สงบสุขมากขึ้น
แต่ความสงบก็อยู่ได้ไม่นานครับ เมื่อเหล่าเมตาฮิวแมนยังคงโผล่มาปะทะกับแฟลชอยู่บ่อยๆ และเหนืออื่นใดคือการมาของ “ซูม” วายร้ายตัวใหม่ที่ร้ายและโหดไม่แพ้ รีเวิร์สแฟลช ทำให้แฟลชและเพื่อนๆ ต้องหาทางรับมือ
ปีนี้ยังคงเดินเรื่องไวเป็นสายฟ้าอยู่ครับ ในแง่ปมต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ดีเหมือนเดิม มีการทิ้งปมให้ติดตาม มีการหักมุม และมีอะไรที่คาดไม่ถึงมาเสิร์ฟผู้ชมเช่นเคย เรียกว่าถ้าใครชอบปีแรกก็น่าจะเพลินกับปีนี้ครับ แต่หากใครไม่ชอบลีลาไวปานวอกของซีรี่ส์ชุดนี้ ก็อาจจะเฉยๆ หรือไม่ก็รำคาญได้เหมือนกัน
ส่วนผมนั้นออกแนวชอบอย่างที่บอกไปครับ เดินเรื่องไว เดินเรื่องเร็ว ปมไหลมาตลอด บางอันพอเฉลยก็ยิ่งงงหนักขึ้นไปอีก จักรวาลของเรื่องราวใน The Flash ก็ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมก็จะไม่สปอยล์ล่ะนะครับว่ามันคือปมอะไรบ้าง แต่บอกได้ว่าเป็นปมที่เข้าท่า มีกลิ่นอายไซไฟแบบเต็มพิกัด เชื่อว่าใครชอบหนังไซไฟก็น่าจะเพลินไปกับสารพัดทฤษฏีและเหตุการณ์ที่หนังนำมาเล่นในปีนี้แน่นอน
ดาราเล่นกันได้ลื่นครับ และแต่ละคนก็มีโอกาสได้แสดงอะไรมากขึ้น ซึ่งถ้าถามว่าผมชอบใครสุดก็ยก ให้ Carlos Valdes เจ้าของบทซิสโก้ล่ะครับ หมอนี่ฮาได้เรื่อยๆ เป็นชูรสอย่างดีเลยล่ะ ส่วนเจ้าอื่นๆ ก็เล่นได้เยี่ยมครับ ปีนี้ผมชอบ ไอริสมากขึ้น เพราะบุคลิกและคาแรคเตอร์ของเจ๊แกพอเหมาะมากขึ้น มีความน่ารักมากขึ้น ไม่ได้เยอะเกินแบบปีก่อนอีกต่อไป
จริงๆ ก็ไม่ได้อยากสปอยล์ แต่สงสัยคงต้องมีบ้างล่ะครับ ไม่งั้นจะบรรยายสิ่งที่ชอบในปีนี้ไม่ครบ ^_^ เอาเป็นว่าบรรทัดต่อไปมีสปอยล์ล่ะนะครับ
=========================
ผมนั้นชอบเรื่องการข้ามมิติหรือการข้ามเวลาอยู่แล้วครับ แบบที่ชอบ Back to the Future นั่นแหละ ซึ่งปีนี้เราจะได้เจอกับปมเหล่านี้เพียบครับ ซึ่งผมไม่ปฏิเสธนะว่ามันอาจมีช่องโหว่บ้าง แต่ทีมงานก็พยายามอุดรอยเท่าที่จะทำได้ ซึ่งหากไม่คิดอะไรมากก็โอเคล่ะครับ ถือว่าจินตนาการเต็มสูบมากสำหรับปีนี้
ตัวละครอีกคนที่ผมชอบไม่แพ้ซิสโก้ก็คือ ดร.แฮร์ริสัน เวลส์ ครับ ปีนี้พี่แกน่ารักมาก คือปีก่อนแกร้ายก็ร้ายลึกเลยนะ แต่ปีนี้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติเยอะที่สุด คือเป็นคนธรรมดาที่มีทั้งมุมสว่างและมุมมืด แต่โดยพื้นฐานจิตใจแล้วเขาเป็นคนดีน่ะครับ เลยทำให้ระหว่างดูนี่เราค่อยๆ ชื่นชม เห็นใจ และรักตัวละครนี้มากขึ้น
สารภาพเลยว่าตอนหลังๆ นี่แอบรู้สึกผูกพันกับพี่แกไปเลยล่ะ เป็นตัวละครที่เจ๋งจริงๆ อันนี้ขอชม Tom Cavanagh เลยครับ พี่แกเล่นได้โคตรดี คือปีก่อนต้องร้ายลึกนี่แววตาท่าทางพี่แกก็ทำให้เรารู้สึกไม่วางใจนะ เหมือนชั่วจนปิดไม่มิด แต่มาปีนี้พี่แกกลายเป็น “ดีจนปิดไม่มิด” แทน คือดูก็รู้ว่าพี่แกดีน่ะครับ ไม่ได้ชั่วไม่ได้ร้าย แต่บางครั้งโดยสถานการณ์บังคับมากกว่า
ส่วนตัวละครเจย์ แกร์ริคก็มาพร้อมความน่าสนใจครับ เจ๋งดี ไหนจะซูมอีก คือมันวางปมได้เจ๋งน่ะครับ บอกได้เลยว่าความสนุกมันเยอะส่วนหนึ่งก็เพราะปมเรื่องซูมรวมถึงปูมหลังของเจย์นี่แหละ
อีกตัวละครที่น่าจับตาคือ วอลลี่ เวสท์ (Keiynan Lonsdale) ลูกชายของโจที่ตอนแรกผมก็กลัวนะว่าพี่แกจะมีคาแรคเตอร์ออกแนวน่ารำคาญหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่ครับ อาจดูน่ารำคาญเล็กๆ ในตอนต้น แต่พอเวลาผ่านไปตัวละครนี้ก็เข้าที่ และกลมกลืนเข้ากับทีมตัวละครเดิมได้อย่างพอดี
และคอการ์ตูนก็น่าจะรู้เป็นเลาๆ ว่า วอลลี่ เวสท์คนนี้ จะมีอะไรพิเศษให้เราได้จับตากันอีกแน่นอน ^_^
สำหรับบทสรุปในตอนจบ ผมชอบนะ คือในใจก็คิดอยู่แล้วว่าแบร์รี่ต้องตัดสินใจแบบนี้แน่นอน เพราะเขาสูญเสียมากเกินไปในศึกนี้ ซึ่งบางตอนก็ยอมรับว่าแอบคิดว่าแบร์รี่โง่ไปนิด อย่างตอนที่จะจับซูมได้ แต่ดันคุยจนมันหนีไป แล้วไม่มีแผนสำรองอะไรเลย จนในที่สุดก็โนมันดูดพลังไป สร้างหายนะอีกเพียบ
แต่พอดูจนจบก็ถึงเข้าใจทิศทางของเรื่องน่ะครับ ว่าจากเรื่องราวทั้งหมดทำให้แบร์รี่ทนไม่ได้อีกต่อไป ยิ่งตัวเองทำให้เกิดความผิดพลาดและหายนะขนาดนั้น เลยต้องขอทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นต่อให้ตายก็คงตายตาไม่หลับ
ก็อยากรู้เหมือนกันว่าปีต่อไปเรื่องจะต่อไปในทิศทางไหน
=============================
โดยรวมแล้วเป็นปีที่สนุกครับ มันส์ น่าติดตาม ลุ้น มีความยิ่งใหญ่มากขึ้น มีดราม่าที่น่าสนใจแทรกเข้ามาเป็นพักๆ สรุปว่าแฟนซีรี่ส์ซูเปอร์ฮีโร่แนวหวือหวาก็น่าจะถูกใจกันล่ะครับ
คะแนนความชอบ 8/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว คิดถึงทุกคืน (2012) Always On My Mind
2262 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ผมพร่ำบอกมาหลายหนแล้วว่าผมโหยหาหนังรักโรแมนติกที่เดินเรื่องง่ายๆ เนื้อหาไม่ซับซ้อน ดูแล้วอิ่มใจ และยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะไปใช้ชีวิตต่อหลังดูหนังจบ ยิ่งหนังเรื่องไหนดูแล้วให้อารมณ์เหมือนเราได้ร่วมรับรู้ “ช่วงหนึ่งของชีวิตใครสักคน” ก็จะยิ่งอินและยิ่มอิ่มไปกับมันครับ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Like Cats & Dogs (2017)
288 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด หนังรักอารมณ์ละมุนสไตล์ Hallmark อีกเรื่องแล้วครับ ว่าตามจริงเรื่องนี้ไม่ถึงขั้นเด็ดจนห้ามพลาด แต่ถ้าดูเอาเพลิน ดูเอาความน่ารักและโรแมนติกล่ะก็ ผมถือว่าหนังทำได้เวิร์กในระดับหนึ่งทีเดียว ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Into the Woods (2014) มหัศจรรย์คําสาปแห่งป่าพิศวง
2745 0Into the Woods ทำให้ผมนึกถึง Sweeney Todd โดยเฉพาะในส่วนของทำนองเพลง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะหนังทั้ง 2 เรื่องต่างก็มีคนประพันธ์เพลงชื่อ Stephen Sondheim เหมือนกัน ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด