รีวิว Star Trek Beyond (2016) สตาร์ เทรค ข้ามขอบจักรวาล (แบบสปอยล์ ตอนที่ 2)

รีวิว Star Trek Beyond (2016) สตาร์ เทรค ข้ามขอบจักรวาล (แบบสปอยล์ ตอนที่ 2)

S009

https://www.youtube.com/watch?v=kxWsDvH3yb8

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด

ถัดจากนี้ไปก็คงมีสปอยล์ล่ะนะครับ ไม่อยากทราบไม่ควรอ่านครับผม เอาเป็นว่าไปดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน (ในเบื้องต้นก็อย่างที่บอกครับ หากใจอยากดูก็ดูได้เลยครับ)

ถ้าว่ากันถึงเรื่องบท จริงๆ ตอนต้นมีการเปิดปมหลายอย่างที่น่าสนใจครับ อย่างเรื่องปมในใจของเคิร์ก, ทางเลือกของสป็อก ซึ่งปมพวกนี้ก็ได้รับการสานต่ออยู่พักหนึ่ง และปมของสป็อกก็ถูกสรุปได้อย่างดีใน “ฉากๆ หนึ่ง” (ที่ผมจะพูดในตอนท้าย) แต่สำหรับปมของเคิร์กนั้น ถือว่ายังไม่ค่อยได้รับการต่อยอดให้เกิดเป็นแง่คิดแบบที่ภาคก่อนเคยทำสักเท่าไร

จริงๆ ผมว่าตัวบทหนังนั้น มันค่อนข้างชัดล่ะครับว่ามีการวางจะให้ตัวครัลล์ เป็นเหมือนบทเรียนสอนชีวิตให้กับเคิร์ก

ตัวเคิร์กนั้นกำลังอยู่ในช่วงสับสนว่า ตกลงเราเข้าสตาร์ฟลีทมาทำไม? อะไรคือสิ่งที่เราค้นหา? การตะลุยจักรวาลแบบนี้มันให้อะไรกับเราเหรอ?

ฉันเป็นใคร? และอยู่ตรงนี้เพื่ออะไรกันแน่?

ในขณะที่ครัลล์นั้นคืออดีตทหารนักรบของโลกที่รู้สึกตัวอยู่ทุกนาทีว่า “ฉันเกิดมาเพื่อรบ” เขาเลยรบ รบ รบ และเชื่อในพลังแห่งการรบราฆ่าฟันเหนืออื่นใด

S010

ครั้นพอสตาร์ฟลีทก่อตั้งขึ้น บนรากฐานที่ต้องการให้ทุกจักรวาลและทุกเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันได้โดยสันติ หยุดการฆ่าฟัน และแบ่งปันอวกาศให้แก่กัน ครัลล์ก็ไม่ค่อยจะเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านี้สักเท่าไร แต่เขาก็ยอมตาม (ในแง่หนึ่งเขาก็อาจจะอยากลองเชื่อในพลังแห่งสันติและความสามัคคีดูสักครั้งก็ได้)

แต่พอเขาประสบเหตุจนต้องติดอยู่บนดาวดวงหนึ่ง และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เขาเลยหมดศรัทธาต่อสตาร์ฟลีท ส่วนความเชื่อในเรื่องสันติและสามัคคีที่มีน้อยอยู่แล้ว ก็ยิ่งหายไปกันใหญ่ (เพราะเขาต้องฝ่าฟันมันคนเดียว ไม่มีใครมาช่วยเลย)

แล้วในที่สุดมันก็เปลี่ยนเป็นความแค้น เป็นความเห็นแก่ตัว และเขาก็กลับมาหมกมุ่นในการรบการฆ่าที่เขาเชื่อมั่นในพลังของมันอีกครั้ง อันทำให้เขาค่อยๆ หมดความเป็นมนุษย์ไปในที่สุด

หากคิดแบบต่อยอดสักหน่อย (ซึ่งในหนังอาจจะไม่ได้บอกไว้ แต่ผมคิดต่อเอาเองครับ ^_^) ผมว่าเรื่องนี้สอนเคิร์กได้หลายอย่าง

อย่างแรกคือ ตัวครัลล์นั้นเป็นพวกที่ยึดติดแต่กับอดีต ติดอยู่กับความเชื่อเดิมๆ ของตน ไม่ยอมเปิดรับสิ่งใหม่ จนสุดท้ายสิ่งที่เขาหมกมุ่นก็กลายเป็นเหมือนอาวุธร้ายทำลายชีวิตอื่นๆ

S011

ในขณะที่เคิร์กเองก็คล้ายกันครับ ปล่อยให้ปมและคำถามจากอดีตมาถ่วง “ปัจจุบัน” ทำให้เขาไร้ความสุข รู้สึกชีวิตไร้จุดหมาย จนมันค่อยๆ ทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายและว่างเปล่ามากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งในแง่หนึ่งมันยังส่งผลต่อเขาในการทำหน้าที่ “กัปตัน” ณ ปัจจุบัน

หากเคิร์กวางอดีตและอยู่กับปัจจุบันได้ ชีวิตกัปตันอย่างเขาคงมีความสุขมากขึ้น และอาจช่วยชีวิตผู้คนได้มากขึ้น (จุดนี้แอบคิดเหมือนกันว่าการที่เคิร์กไม่ไหวตัวเรื่อง “นกต่อที่ครัลล์ส่งมาล่อลวง” ให้เร็วกว่านี้ อาจเป็นเพราะความสับสนที่เกิดขึ้น จนส่งผลให้เขาโฟกัสบทบาทหน้าที่ในปัจจุบันได้น้อยลงก็ได้)

อย่างที่สองคือ เคิร์กพยายามหาคำตอบว่าฉันกำลังตามหาอะไร? ฉันคือใคร? นี่ฉันมาเป็นกัปตันเพียงเพราะมีคนท้าเท่านั้นน่ะหรือ? เขาคงคิดว่ามันคงจะมีอะไรสักอย่างที่สามารถให้คำตอบกับเขาได้ในเวลาอันสั้น ประมาณว่าคำตอบเป็นดั่ง “ขุมทรัพย์” ที่เจอปุ๊บก็ใช่เลย อะไรแบบนั้น

แต่แท้จริงแล้ว การท่องอวกาศก็เหมือนการใช้ชีวิตน่ะครับ เราอาจจะไม่ได้สาระพลิกชีวิตแบบเต็มๆ ในครั้งเดียว แต่มันจะค่อยๆ สั่งสมเป็นประสบการณ์ ก่อนจะค่อยๆ กลั่นออกมาเป็นแง่คิด เป็นเข็มทิศ หรือเป็นสาระแห่งชีวิต ให้เราได้นำมันมาปรับปรุงวิถีของเราให้เข้าใกล้ “ใจตน” ช่วยให้เราเข้าใจตนเองได้มากขึ้น

เกือบ 3 ปีที่เคิร์กท่องอวกาศมา หากเขามองหาโดยหวังว่า “คำตอบของชีวิต” จะวางอยู่บนแท่น รอให้เขาไปหยิบมา ณ ที่ใดที่หนึ่งในอวกาศ เขาก็อาจจะยังไม่พบมัน

S012

แต่หากเขาย้อนมองประสบการณ์ที่เขาได้รับ มองสิ่งที่เขาเจอจากแต่ละเหตุการณ์ ทั้งหมดนั้นแหละที่จะค่อยๆ ทำให้เขาพบกับ คำตอบ, นิยาม, เป้าหมาย หรือคุณค่าของคำว่า “ชีวิต”

ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าเคิร์กคิดอย่างไร ถึงรู้สึกยินดีรับตำแหน่งกัปตันต่อในตอนท้าย ทั้งที่ตอนแรกก็บอกอยู่ว่าอยากจะสละตำแหน่งนี้ให้สป็อกแทน… อยากรู้เหมือนกันนะ ^_^ (แต่หนังเหมือนจะยังไม่เคลียร์เท่าไรในจุดนี้)

และหากจะมาอะไรที่ติดอยู่ในใจ ก็คงหนีไม่พ้นประเด็น “ความรับผิดชอบของกัปตัน” ที่มีการปูไว้เมื่อภาคก่อน พอมาภาคนี้เหมือนประเด็นนี้จะหายไปน่ะครับ อย่างลูกยานคนหนึ่งที่เคิร์กฝาก “ของสำคัญ” เอาไว้แล้วเธอก็ต้องมาตาย ตอนแรกก็นึกว่าเคิร์กจะรู้สึกเจ็บแค้นครัลล์มากขึ้น หรือรู้สึกเสียใจที่ให้เธอรับภาระนี้ จนต้องลงเอยด้วยความตาย โดยที่เขาไม่สามารถกลับมาปกป้องช่วยเหลือเธอได้ (ในฐานะกัปตัน)

กล่าวคือนึกว่าตัวละครนี้จะมาช่วยกระตุ้น “ความรู้สึกรับผิดชอบในฐานะกัปตันของเคิร์ก” อะไรประมาณนั้น

แต่กลายเป็นว่าบทของเธอคนนี้กลับไม่ได้มีผลต่อเคิร์กแบบที่คิด (ซึ่งก็แอบเสียดายเล็กๆ น่ะครับ)

S013

เอาล่ะครับ ร่ายมาเยอะยาว ก็ขอสรุปเป็นว่า จริงๆ ผมก็ยังเพลินกับ Trek ภาคนี้น่ะครับ เพียงแต่อาจไม่โดนใจไปทั้งหมด แต่ก็ไม่เป็นไร ผมยังพร้อมจะดูภาคต่อๆ ไปอยู่แล้วล่ะ ส่วนนักแสดงแต่ละคนก็เล่นได้ดีหมดล่ะครับ ไม่วาจะเคิร์ก, สป็อก, แม็คคอย, อูฮูร่า, ซูลู, เชคอฟ หรือ สก็อตตี้ ส่วน Boutella ก็ไม่เลวเลยครับ เพียงแต่ Elba อาจยังไม่เด่นเท่าตัวร้ายรายก่อนๆ เท่านั้น

เสียดายเพียงแค่เราจะไม่ได้เห็น Anton Yelchin ในบทเชคอฟอีกต่อไป รวมถึง Leonard Nimoy ก็จากไปด้วยเช่นกัน

สำหรับผม แม้ภาคนี้จะไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็ถือเป็นภาคที่มีความหมายลึกๆ ตรงที่เป็นการโบกมืออำลาส่งทั้ง 2 คน ^_^

ฉากที่สป็อกเอาภาพที่อยู่ในกล่องของสป็อกคนเก่ามาเปิด เป็นหนึ่งในฉากที่ดีที่สุดของภาคนี้ (และทุกภาค) มันกินใจแบบไร้คำบรรยาย และมันคือที่สุดจริงๆ สำหรับการบอกความรู้สึกของสป็อก (ผมถึงบอกว่าปมของสป็อก แค่ฉากนี้ก็เอาอยู่แล้วครับ ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาจะเลือกอยู่หรือไป)

จำได้ตอนเดินออกจากโรง (ออกเป็นคนสุดท้ายเพราะอยากเห็นคำอุทิศที่หนังมอบให้ทั้ง 2 คนนี้ แต่โรงก็ปิดจอไปก่อน ผมเลยต้องเดินออกมา)

ผมเลยเดินช้าๆ ออกจากโรง เดินมามองท้องฟ้าข้างนอก…

แล้วนึกในใจว่า “ลาก่อนสป็อก (Nimoy)… โชคดีนะ เชคอฟ (Yelchin)

ที่ผมเข้าโรงมาดูหนังในวันนี้ จริงๆ ก็เพื่อมาส่งพวกคุณนี่แหละ”
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

Similar Videos

รีวิว The Butler (2013) เดอะ บัทเลอร์ เกียรติยศพ่อบ้าน บันลือโลก

2383 0

จุดที่น่าสนใจที่สุดของ The Butler คือการเป็นหนังรวมดาวดารายอดฝีมือไว้ อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะ Forest Whitaker, Oprah Winfrey, John Cusack, Clarence Williams III, Terrence Howard, Cuba Gooding Jr., Liev Schreiber, Alan Rickman, Jane Fonda และ Robin Williams ผู้ล่วงลับ ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ

รีวิว The Invisible Guest (2016) แขกไม่ได้รับเชิญ

2145 0

ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ตอนนี้ไม่รู้ว่าผมเริ่มอิ่มตัวกับหนัง Hollywood – เป็นเพราะหนัง Hollywood เองเริ่มย่ำอยู่กับที่ – หรือเพราะมันกำลังเดินไปในทางทิศทางที่เราไม่คุ้น (จนเด็กยุค 90 อย่างผมเริ่มไม่ชินกับมัน) กันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือความรู้สึกเหล่านั้น มันทำให้ผมหันไปหาหนังแนวอื่น สัญชาติอื่น สไตล์อื่นมากขึ้น ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด

รีวิว Goosebumps (2015) คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก

1994 0

ตอน Goosebumps เปิดตัวที่อเมริกาในเดือนตุลาคม ผมก็แปลกใจที่หนังไม่ยักกะมีโปรแกรมเข้าฉายในไทยในตอนนั้นเลยทั้งที่หนังก็ ทำเงินในระดับที่น่าพอใจไม่น้อยและหนังน่าจะขายได้ในบ้านเรา เพราะ Effect มาเต็มและแนวหนังเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวซะขนาดนั้น ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด