ถือเป็นหนังผีที่ดูแล้วไม่ผิดหวังครับ ดูได้เพลินๆ น่ากลัวพอประมาณ (เชื่อว่าคนที่กลัวความมืดน่าจะกลัวหนักขึ้นหลังดูเรื่องนี้แล้ว) แล้วก็มีเนื้อหาชวนติดตามในระดับหนึ่ง

หนังขยายขนาดจากหนังสั้นที่มีอยู่ช่วงหนึ่งมีการเอามาแชร์กับเต็มฟีด Facebook เลย (ประมาณว่ามีคนรวมวีดีโอหนังสั้นสยองๆ มาแชร์ให้ดูกันออนไลน์) ซึ่งก็เป็นเรื่องสั้นที่ผมว่าดูสนุกดีครับ ช็อกไม่เลว

และจากความเข้าท่าของผลงานชิ้นนั้นทำให้ผู้กำกับอย่าง David F. Sandberg ได้โอกาสเอาไอเดียนั้นมาขยายทำเป็นหนังใหญ่ครับ โดยแกนหลักยังเหมือนเดิม คือว่าด้วยผีที่จะโผล่มาตอนเราปิดไฟ ครั้นพอเปิดไฟเราก็จะมองไม่เห็นมัน แต่ก็ใส่พล็อตเพิ่มลงไปด้วย

เรื่องราวว่าด้วย มาร์ติน (Gabriel Bateman) หนูน้อยที่เจอเรื่องสยองในยามมืด ยามที่ไร้แสงไฟมันเหมือนมีอะไรสักอย่างปรากฏขึ้นอย่างน่ากลัว ซึ่งไปๆ มาๆ พี่สาวของเขา (Teresa Palmer) ก็เคยเจอเรื่องทำนองนี้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ครับ

ในที่สุด 2 พี่น้องเลยตามล่าหาความจริงว่าตกลงอะไรกันแน่ที่ซ่อนอยู่ในความมืด มันต้องการอะไร และที่สำคัญที่สุดคือจะทำให้มันหายไปจากชีวิตพวกเขาได้อย่างไร

หากว่ากันถึงองค์ประกอบก็เหมือนพวก The Ring น่ะครับ เปิดปมมาก็ว่าด้วยผีสยองลึกลับ มีคนตายเพราะมัน ก่อนที่ตัวเอกจะพยายามตามล่าปมปริศนา หาคำตอบจนเจอ แล้วก็เผชิญหน้ากับมันในท้ายที่สุด

ครับ มันลงสูตร แต่ก็ก็เล่าได้อย่างออกรส มีความน่าติดตามและความสยองผสมกันในระดับที่น่าพอใจ แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้สดใหม่อะไรหรอกครับ แต่การปรุงรสชาติถือว่าโอเค ในแง่ความน่ากลัวก็มีสะดุ้งอยู่บ้าง ในแง่เนื้อหาก็มีปมให้ติดตาม โดยรวมเลยเป็นหนังสยองที่น่าพอใจเรื่องหนึ่ง

ดาราในเรื่องก็หน้าคุ้นเป็นส่วน มากครับ ตั้งแต่ Palmer สาวสวยที่หลายคนชื่นชอบ (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น) ก็เล่นได้ดีครับ ตามด้วย Maria Bello ในบทแม่ของเด็กทั้ง 2 ที่ขานี้แสดงมานาน เล่นบทไหนได้หมดครับ แล้วก็ดูโอเคกับบทนั้นๆ ด้วย

Bateman ดาราเด็กคนนี้ก็คุ้นเคยกับการเล่น หนังสยองดี ตั้งแต่ Annabelle มาจนถึงซีรี่ส์ American Gothic ก็ถือว่าเล่นได้โอเคครับ, Billy Burke ที่หลายคนอาจจะคุ้นมาจากหนังชุด Twilight ก็มาโผล่ในตอนต้นนิดหน่อย และ Lotta Losten ดาราที่เคยเล่นใน Lights Out ฉบับหนังสั้นก็มาร่วมแจมด้วยในบทรับเชิญตอนต้นเรื่อง (ถ้าว่าตามลำดับแล้ว เธอเป็นตัวละครแรกของเรื่องที่เจอผีพร้อมคนดูน่ะครับ)

ดูแล้วไม่ผิดหวังครับ สนุก สยอง หลายๆ ส่วนทำได้ดี การหลอกของผีก็ไม่เลว จังหวะต่างๆ พอเหมาะ และความยาวก็ไม่มากเกิน แค่ 81 นาทีเท่านั้นเอง ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่ต้องพยายามใส่อะไรลงมายืดให้มันเกินกว่านี้ ใส่ลงมาแค่นี้ก็ถือว่าพอดีแล้วล่ะ

ล่าสุด Sandberg ถูกวางตัวให้กำกับ Annabelle 2 ก็หวังว่าจะออกมาโอเคกว่าภาคแรกน่ะนะครับ ส่วนหนังเรื่องนี้ทำกำไรตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวเลย (วันแรกวันเดียวทำเงินไป $9 ล้าน ในขณะที่เงินลงทุนแค่ $4 ล้านครับ กำไรล้นเหลือเลย)

คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน

*** มีสปอยล์นิดหน่อยต่อจากนี้นะครับ ไม่อยากทราบอย่าเพิ่งอ่านครับ ***
ผมชอบอีกอย่างคือตอนจบน่ะครับ ที่หนังจบตรงรถพยาบาล แต่จริงๆ ตอนแรกมันจะมีต่อครับ ประมาณว่าผีไดอาน่าตามมาหลอกจองล้างจองผลาญตอนหลังจากนั้น (ในรถพยาบาลนั่นแหละ)

ซึ่งมีการฉายฉากนี้ในรอบทดลองด้วย และผลก็คือคนดูไม่โออย่างแรงครับ มันทำให้หนังดูไร้น้ำหนักไปเลย สุดท้ายเลยตัดเอาฉากนั้นออก จบแค่เท่าที่เห็นแทน

อันนี้ผมเห็นด้วยนะ จบแบบจบๆ ไปเลยดีกว่า ถ้าจะทำภาคต่อก็คิดมุกใหม่เอา น่าจะดีกว่า