รีวิว The Man Who Knew Infinity (2015) อัจฉริยะโลกไม่รัก
ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด
หนังแนวชีวประวัติที่บอกเล่าเรื่องราวของ ศรีนิวาสะ รามานุจัน ชาวอินเดียผู้เป็นอัจฉริยะแห่งโลกคณิตศาสตร์ เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมากว่า 4,000 ชิ้นครับ ไม่ว่าจะงานวิจัยหรือทฤษฎีบทต่างๆ
แต่ด้วยความที่ในขณะนั้น (ช่วงปี 1910-1920) ชาวอินเดียยังไม่ได้รับการยอมรับสักเท่าไรครับ แม้เขาจะเก่งขนาดไหนก็เถอะ แต่ชนชาติอย่างอังกฤษก็ยังมองชาวอินเดียว่าเป็นแค่คนพื้นเมืองที่ไร้การศึกษาเท่านั้น
นั่นเลยทำให้รามานุจันต้องฟันฝ่าอุปสรรคหลายอย่างมากๆ ในการนำเสนอผลงานของตนเอง เพราะนอกจากคนอังกฤษทั่วไปจะดูถูกแล้ว เหล่านักวิชาการนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ พวกเขาไม่โอเคอยู่แล้วล่ะที่จู่ๆ มีคนอินเดีย (ซึ่งเป็นชาติเมืองขึ้นของอังกฤษ) จะมาเก่งกว่าพวกเขา เลยทำให้รามานุจันต้องเจอกับเรื่องกดดันและความไม่เป็นธรรมมากมาย
แต่ก็ยังดีครับที่เขาได้พบกับ ก็อดฟรีย์ ฮาร์ดี้ และคนผู้นี้เองที่คอยสนับสนุนเขา จนในที่สุดรามานุจันสามารถแสดงผลงานของตนเองออกมาได้ ซึ่งผลงานที่เขาคิดค้นได้นี้ก็ส่งผลอย่างยิ่งต่อวงการคณิตศาสตร์ รวมถึงวงการวิทยาศาสตร์อื่นๆ อีกด้วย
เรื่องราวของรามานุจันมีความน่าสนใจไม่น้อยครับ เพราะเขาคือปรากฏการณ์นะ เป็นเสมือนสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง เพราะเขาสามารถคิดค้นและเห็นความสัมพันธ์ของตัวเลข สมการ สูตร ฟังก์ชั่น และสารพัดทฤษฎีบทในโลกคณิตศาสตร์ได้ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนล่ะครับที่จะทำได้แบบนี้ (ต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่แค่เจอวิชาเลขแบบปกติๆ ก็ปวดหัวจะแย่ ไม่ต้องอื่นไกลล่ะครับ อย่างผมนี่แหละ ไม่เก่งเรื่องตัวเลขมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว)
เขาจึงเป็นคนระดับอัจฉริยะครับ เพียงแต่ความเก่งของเขาก็ถูกบดบังด้วยค่านิยมเรื่องชาติกำเนิด เลยอดคิดไม่ได้นะว่าถ้าคนเราไม่มัวแต่มองเรื่องชาติกำเนิดหรือชนชั้น แล้วให้ “เพชรเม็ดเอก” อย่างรามานุจันได้ส่องประกายแบบจริงๆ จังๆ ตั้งแต่เริ่มล่ะก็ โลกอาจได้ทฤษฎีบทหรือสมการที่สร้างความก้าวหน้าให้กับโลกแบบก้าวกระโดดกว่าที่เป็นอยู่นี่ก็ได้
หากใครยังไม่เข้าใจว่าเรื่องชนชั้น ความเหลื่อมล้ำ หรือการเหยียดเชื้อชาติส่งผลกระทบต่อการวิวัฒน์และพัฒนาของโลกอย่างไร ผมเชื่อว่ากรณีของรามานุจันนี่สามารถบ่งบอกถึงเรื่องนั้นให้เราเห็นภาพได้เป็นอย่างดีล่ะครับ
สำหรับตัวหนังนั้น ว่าตามจริงคืออาจยังไม่โดดเด่นแบบเต็มที่ จุดที่ถือว่าดีคือการแสดงครับ Dev Patel เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับบทรามานุจัน ซึ่งผมจะไม่ฟันธงนะว่าเหมาะที่สุดไหม (เพราะลึกๆ ก็แอบคิดว่าอาจจะมีดาราที่เหมาะกว่า) แต่ก็ถือว่า Patel ทำได้ดีครับ หลายฉากนี่ทำเอาเราเห็นใจเขาขึ้นมาเลย
อย่างตอนน้ำตาคลอเดินออกจากห้องเรียน หลังโดนอาจารย์ด่าที่ไปหักหน้าเขา ฉากนี้สะเทือนใจไม่น้อยเหมือนกัน
และฉากที่ผมชอบมากฉากหนึ่ง (จริงๆ ออกแนวสะเทือนใจมากกว่าน่ะนะครับ) คือตอนที่รามานุจันรู้สึกว่าตนเองไม่มีที่ยืนน่ะครับ (หลังจากฉากข้างบนนั่นแหละ) แล้วเขาก็เข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยรูปปั้นของนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะในอดีตที่คนต่างยกย่อง
มันสะเทือนใจน่ะครับที่คนที่มีความสามารถเช่นเขา ไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหนดี เหมือนไม่มีใครพร้อมต้อนรับเขาแบบจริงๆ จังๆ ทั้งๆ ที่สถานที่แห่งนี้คือสถานที่สำหรับพัฒนาคน มันคือสถานที่แห่งปัญญาชน สถานที่แห่งการเพาะองค์ความรู้ใหม่ๆ… แต่ขนาดในที่แบบนี้ เขายังไม่รู้จะยืนตรงไหน
เอาเข้าจริงๆ แล้ว คนที่จะคุยกับเขารู้เรื่องหรือยอมรับเขาก็คงเป็นพวกอัจฉริยะด้วยกัน ซึ่งก็คือบุคคลที่อยู่ในรูปปั้นทั้งหลายนั่นแหละครับ ฉากนี้สะเทือนใจนะ อย่างตอนรามานุจันสัมผัสรูปปั้นเซอร์ไอแซค นิวตัน เขาคงอยากถามน่ะครับว่า “ผมควรทำอย่างไร?”
มันถือเป็นความจริงที่น่าคิดนะครับ… บางครั้งโลกนี้ก็ไม่ได้เหมาะกับคนฉลาด และไม่ได้มีที่ยืนให้กับคนที่มีความสามารถเสมอไป
Jeremy Irons ก็ไปได้ดีกับบทฮาร์ดี้ครับ แต่คนที่โดนใจผมสุดคือ Toby Jones ในบทลิตเติ้ลวู้ดครับ เขาแสดงได้ดีและน่ารักมากๆ และอีกคนที่ลืมไม่ได้คือ Jeremy Northam ในบท เบอร์แทรนด์ รัสเซลล์ คนนี้ก็ดูสูงอายุขึ้นเยอะ (ไม่รู้จะมีสักกี่คนที่จำได้ว่าเขาเคยเป็นตัวเอกในเรื่อง The Net คู่กับ Sandra Bullock มาก่อนนะเนี่ย)
ครับ พลังดาราคือส่วนสำคัญของหนัง ในขณะที่การเดินเรื่องถือว่าน่าพอใจ แต่ยังไม่มีพลัง ยังไม่มีจุดโฟกัสที่โดดเด่นขนาด The Theory of Everything หรือ A Beautiful Mind
สิ่งหนึ่งที่หนังทำได้ดีคือการนำเสนอความกดดันที่รามานุจันต้องเผชิญ แต่ในแง่การนำเสนอผลงานหรือการนำเสนอว่ารามานุจันส่งผลต่อวงการอย่างไรบ้างนั้น จุดนี้ยังไม่เด่นเท่าไร เหมือนหนังจะเน้นไปที่ดราม่าและสารพัดอุปสรรคจากคนด้วยกัน มากกว่าจะถ่ายทอดอัจฉริยภาพและความมหัศจรรย์ของรามานุจันน่ะครับ
อย่างไรก็ถือเป็นหนังที่น่าลิ้มลองครับ แต่หากอยากรู้จักรามานุจันมากกว่านี้ อ่านหนังสือจะเข้าใจอะไรหลายอย่างมากกว่าที่หนังบอกครับ
คะแนนความชอบ 7/10
รีวิวโดย ขุนหมื่นแสนสะท้าน
ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Jim & Andy: The Great Beyond (2017) จิมและแอนดี้ (ตอนที่ 2)
2640 0https://www.youtube.com/watch?v=5jIqkX9a6Ak ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ถึงจุดนี้ผมชื่นชมทีมงานของหนังเรื่องนี้แบบทั้งกองเลยครับ เพราะพวกเขาทุ่มใจกันทำจริงๆ แม้การทำงานมันอาจจะมีอะไรให้หงุดหงิดใจอยู่บ้าง หรือการเป็นแอนดี้แบบเต็มร้อยของ Carrey จะทำให้คนเกิดความขุ่นเคืองอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็เดินหน้าทำด้วยกันจนเสร็จ และทำงานต่อไปด้วยความเข้าใจ (เพราะถ้าไม่เข้าใจล่ะก็ คงมีเรื่องกันถึงขั้นทำงานต่อกันไม่ได้แล้วน่ะครับ) ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว 2:22 (2017) เวลาเฉียดตาย
2548 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด เข้าไปดูแบบกึ่งรู้กึ่งไม่รู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครับ ที่ว่ารู้คือ รู้ว่า Teresa Palmer แสดง ซึ่งผมก็พร้อมตามไปเชียร์ผลงานเธอเสมอ (555) และก็รู้นิดๆ หน่อยๆ ว่าหนังน่าจะออกแนวไซไฟ เกี่ยวกับเรื่องเวลาอะไรประมาณนั้น ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด
รีวิว Rigor Mortis (2013) ผีเต็มตึก
2599 0ทางเข้าดูหนังออนไลน์ฟรี 👉 Hopsmovie.com 👈 เว็บดูหนังฟรีที่มีหนังให้เลือกดูมากที่สุด ได้ยินกิตติศัพท์หนังเรื่องนี้มานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ (จริงๆ คือเอาแผ่นมาดองน่ะครับ ดองซะผีจีนแทบจะกลายเป็นมัมมี่เลย 555) พอดีมีเวลาเลยจัดซะ ทางเข้าดูการ์ตูนออนไลน์ฟรี 👉 AnimeHaku.com 👈 เว็บดูอนิเมะ มีการ์ตูนพากษ์ไทยเยอะที่สุด